130 likes | 229 Views
งานวิจัยทางคลินิก. เรื่อง : ความน่าเชื่อถือของระดับ Serum PSA ในการตรวจหา มะเร็งต่อมลูกหมากเปรียบเทียบกับผลการตรวจชิ้นเนื้อ ต่อมลูกหมาก ( PROSTATE BIOPSY). หลักการและเหตุผล. มะเร็งต่อมลูกหมากเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับที่ 9 ในผู้ป่วยชายไทย (จากงานสถิติสถาบันมะเร็งแห่งชาติปี 2539)
E N D
งานวิจัยทางคลินิก เรื่อง :ความน่าเชื่อถือของระดับ Serum PSA ในการตรวจหา มะเร็งต่อมลูกหมากเปรียบเทียบกับผลการตรวจชิ้นเนื้อ ต่อมลูกหมาก ( PROSTATE BIOPSY)
หลักการและเหตุผล • มะเร็งต่อมลูกหมากเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับที่ 9 ในผู้ป่วยชายไทย (จากงานสถิติสถาบันมะเร็งแห่งชาติปี 2539) • มะเร็งต่อมลูกหมากพบมากเป็นอันดับ 1 และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 3 ของผู้ป่วยชายที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งทั้งหมดในสหรัฐอมริกา (สถิติปี ค.ศ. 1997) • ในโรงพยาบาลพุทธชินราชมีผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งต่อมลูกหมากเข้ารับการตรวจรักษาเป็นจำนวนมาก (ประมาณ 517 ราย ในปี 2543- ปัจจุบัน พฤศจิกายน 2545)
หลักการและเหตุผล การวินิจฉัยมะเร็งต่อมลูกหมากในโรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก อาศัยการวัดระดับ serum PSA เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจทำ Prostate biopsy โดยจะทำการตรวจชิ้นเนื้อต่อมลูกหมากก็ต่อเมื่อ : • DRE ไม่บ่งชี้ว่าเป็นมะเร็งแต่มีระดับ serum PSA >10 ng/ml • DRE บ่งชี้ว่าเป็นมะเร็งและมีระดับ serum PSA ตั้งแต่ 4 ng/ml ขึ้นไป
วัตถุประสงค์ เพื่อพิจารณาถึงความเหมาะสมในการใช้ระดับ serum PSA มาเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาทำการตรวจชิ้นเนื้อต่อมลูกหมากในผู้ป่วยที่สงสัยว่าเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
ผลที่คาดว่าจะได้รับ แนวทางที่เหมาะสมที่ใช้ช่วยพิจารณาวิธีการและขั้นตอนในการตรวจหาข้อมูลที่จะนำไปสู่การวินิจฉัยโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในโรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก
คำถามวิจัย คำถามหลัก : ระดับ Serum PSA สามารถใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาทำการตรวจชิ้นเนื้อต่อมลูกหมาก (prostate biopsy) ในผู้ป่วยที่สงสัยว่าเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้หรือไม่ คำถามรอง • Digital Rectal Examination (DRE) ที่ไม่บ่งชี้ว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากและระดับ Serum PSA> 10 ng/ml พบเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากเท่าใด • Digital Rectal Examination (DRE) ที่บ่งชี้ว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากและมีระดับ Serum PSA ตั้งแต่ 4 ng/ml ขึ้นไปพบว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากเท่าใด
วิธีการดำเนินการวิจัยวิธีการดำเนินการวิจัย • รูปแบบการศึกษา : การศึกษาเชิงพรรณาแบบย้อนหลัง • ระยะเวลา : 1 กุมภาพันธ์ 2544 – 31 ตุลาคม 2545 • กลุ่มตัวอย่าง : ผู้ป่วยในโรงพยาบาลพุทธชินราชที่ได้รับการตรวจระดับ serum PSA ร่วมกับการตรวจชิ้นเนื้อต่อมลูกหมาก จำนวน 43 ราย
วิธีการดำเนินการวิจัยวิธีการดำเนินการวิจัย • เครื่องมือการวิจัย : เวชระเบียนของผู้ป่วย ประกอบด้วย • ข้อมูลทั่วไปของผู้ป่วย • ผลการตรวจ Digital Rectal Examination • ผลการตรวจระดับ Serum PSA • ผลการตรวจชิ้นเนื้อต่อมลูกหมาก • สถิติการวิจัย : ใช้สถิติเชิงพรรณาโดยคิดเป็นร้อยละและหาความสัมพันธ์โดยใช้ Odds ratio และ95% Confident interval
ผลการศึกษา ตารางที่ 1 : ผลการตรวจ Digital Rectal Examination Sensitivity = 61.90% Specificity = 45.45%
ผลการศึกษา ตารางที่ 2 : Serum PSA levelที่ตรวจวัดในโรงพยาบาลพุทธชินราชตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2544 – 31 ตุลาคม 2545 หมายเหตุ : Serum PSA level ที่เป็นผู้ป่วยของ ร.พ.พุทธชินราชมีจำนวน ทั้งสิ้น 513ราย แต่ที่มีผลการตรวจชิ้นเนื้อต่อมลูกหมากและผล DRE มีจำนวน 43 ราย
ผลการศึกษา ตารางที่ 3 : Not suggested CA Prostate DRE
ผลการศึกษา ตารางที่ 4 : Suggested CA Prostate DRE
สรุป • ในกรณีที่ Digital Rectal Examination (DRE) ไม่บ่งชี้ว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากและระดับ Serum PSA> 10 ng/ml พบว่ามีความเหมาะสมที่จะใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจทำการตรวจชิ้นเนื้อต่อมลูกหมาก • ในกรณีที่ Digital Rectal Examination (DRE) บ่งชี้ว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากและร่วมกับระดับ Serum PSA ตั้งแต่ 4 ng/ml ขึ้นไปพบว่าไม่เหมาะที่จะใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจทำการตรวจชิ้นเนื้อต่อมลูกหมาก