1 / 55

กล้วยไม้สกุลหวาย

กล้วยไม้สกุลหวาย. เสนอ อาจารย์ สุทธิพร ต้นเถา. จัดทำโดย นางสาว จริยาพร หม่อมตา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 /1 เลขที่ 1. โรงเรียนน้ำบ่อหลวงวิทยาคม อำเภอ สันป่าตอง จังหวัด เชียงใหม่. กล้วยไม้สกุลหวาย (Dendrobium).

heman
Download Presentation

กล้วยไม้สกุลหวาย

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. กล้วยไม้สกุลหวาย เสนอ อาจารย์ สุทธิพร ต้นเถา จัดทำโดย นางสาว จริยาพร หม่อมตา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 เลขที่ 1 โรงเรียนน้ำบ่อหลวงวิทยาคม อำเภอ สันป่าตอง จังหวัด เชียงใหม่

  2. กล้วยไม้สกุลหวาย (Dendrobium) เป็นกล้วยไม้สกุลใหญ่ที่สุดมีการแพร่กระจายพันธุ์ออกไปในบริเวณกว้างทั้งในทวีปเอเซียและหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกนักพฤกษศาสตร์ได้จำแนกออกเป็นหมู่ประมาณ 20 หมู่และรวบรวมกล้วยไม้ชนิดนี้ที่ค้นพบแล้วได้ประมาณ 1,000 ชนิดพันธุ์ กล้วยไม้สกุลหวายมีลักษณะการเจริญเติบโตแบบซิมโพเดียลคือมีลำลูกกล้วยเมื่อลำต้นเจริญเติบโตเต็มที่แล้วจะแตกหน่อเป็นลำต้นใหม่และเป็นกอใบแข็งหนาสีเขียวดอกมีลักษณะทั่วไปของกลีบชั้นนอกคู่บนและคู่ล่างขนาดยาวพอๆกันโดยกลีบชั้นนอกบนจะอยู่อย่างอิสระเดี่ยวๆส่วนกลีบชั้นนอกคู่ล่างจะมีส่วนโคนซึ่งมีลักษณะยื่นออกไปทางด้านหลังของส่วนล่างของดอกประสานเชื่อมติดกับฐานหรือสันหลังของเส้าเกสรและส่วนโคนของกลีบชั้นนอกคู่ล่างและส่วนฐานของเส้าเกสรซึ่งประกอบกันจะปูดออกมามีลักษณะคล้ายเดือยที่เรียกว่า “เดือยดอก” สำหรับกลีบชั้นในทั้งสองกลีบมีลักษณะต่างๆกันแล้วแต่ชนิดพันธุ์ของกล้วยไม้นั้นๆ กล้วยไม้หวายป่าของไทยมีสีสวยงามก้านช่อสั้นสำหรับกล้วยไม้สกุลหวายที่เป็นกล้วยไม้อยู่ในป่าของไทยมีหลายชนิดอันได้แก่พวก “เอื้อง” ต่างๆเช่น

  3. เอื้องผึ้งDen. aggregatum เป็นกล้วยไม้ที่มีลำลูกกล้วยป้อมสั้นและเบียดกันแน่นลักษณะใบแข็งหนาสีเขียวจัดออกดอกในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมก้านช่อดอกอ่อนโค้งลงมาช่อหนึ่งมีมากกว่า 20 ดอกพื้นดอกสีเหลืองอ่อนปากสีเหลืองเข้มขนาดดอกโตประมาณ 3 เซนติเมตรพบมากทางภาคเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนภาคตะวันออกภาคตะวันตกและภาคใต้

  4. เอื้องม่อนไข่, เอื้องม่อนไข่ใบมนDen. thyrsiflorum เป็นกล้วยไม้ที่มีลำลูกกล้วยลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมค่อนข้างกลมหรือแบนโคนเล็กและใหญ่ด้านบนสีเขียวลำลูกกล้วยลำหนึ่งๆมีใบประมาณ 3–4 ใบลักษณะใบแหลมยาวประมาณ 10–18 เซนติเมตรออกดอกเป็นช่อช่อดอกห้อยเป็นพวงยาวดอกแน่นกลีบดอกสีขาวกางผายออกโคนกลีบปากกระดกม้วนขึ้นปลายแหลมม้วนขึ้นสีเหลืองภายในมีขนแต่ริมสันปากไม่มีขนขนาดดอกโตประมาณ 2-4 เซนติเมตรบานพร้อมกันทั้งช่อและบานนานประมาณ 1 สัปดาห์ออกดอกเดือนมกราคมถึงเมษายนพบมากตามป่าดิบที่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 เมตรขึ้นไปทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  5. เหลืองจันทบูร Den. friedericksianum เป็นกล้วยไม้ที่มีถิ่นกำเนิดแถบจังหวัดจันทบุรีเป็นกล้วยไม้ที่มีลำลูกกล้วยลักษณะเป็นโคนเล็กแล้วค่อยโป่งไปทางตอนปลายขนาดลำยาวมากบางต้นยาวถึง 75 เซนติเมตรเมื่อลำแก่จะเป็นสีเหลืองโดยด้านข้างของลำจะมีใบอยู่ทั้งสองข้างออกดอกในเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายนช่อดอกออกตามข้อของลำออกดอกเป็นช่อๆละ 2–4 ดอกกลีบดอกเป็นมันรอบแรกดอกจะเป็นสีเหลืองอ่อนแล้วจะค่อยๆเข้มขึ้นจนเป็นสีจำปาปากสีเข้มกว่ากลีบในคอมีสีแต้มเป็นสีเลือดหมู 2 แต้มขนาดดอกโตประมาณ 5 เซนติเมตร

  6. พวงหยก, หวายปมDen. findlayanum เป็นกล้วยไม้ที่มีลำลูกกล้วยสีเขียวเหลืองยาวประมาณ 30–70 เซนติเมตรและโป่งเป็นข้อๆลักษณะใบยาวรีเมื่อลำแก่จะทิ้งใบออกดอกตามข้อๆละประมาณ 2-4 ดอกกลีบดอกสีม่วงอ่อนโคนกลีบสีขาวปากสีเหลืองเข้มขอบปลายปากเป็นรูปหัวใจขนาดดอกโตประมาณ 4–6 เซนติเมตรช่วงออกดอกมักผลัดใบเกือบทั้งหมดออกดอกช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคมพบที่เชียงใหม่แม่ฮ่องสอนและลำปาง

  7. เอื้องช้างน้าว, เอื้องคำตาควาย Den. pulchellum เป็นกล้วยไม้ที่มีลำลูกกล้วยลักษณะกลมต้นอ่อนเป็นเส้นสีม่วงลักษณะใบรูปไข่ยาวประมาณ 10–15 เซนติเมตรเมื่อลำแก่แล้วจะทิ้งใบแตกช่อห้อยที่ปลายลำออกดอกในเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมช่อหนึ่งมี 5–10 ดอกกลีบดอกเป็นสีเหลืองอ่อนมีเส้นเหลืองชมพูปากรูปไข่กลมแบะแอ่นลงมีแต้มสีเลือดหมู 2 แต้มกลีบนอกเป็นรูปใบภายในกลีบเป็นรูปไข่ขนาดดอกโตประมาณ 5–7 เซนติเมตรพบทางภาคเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนภาคกลางภาคตะวันตกและภาคใต้

  8. เอื้องมัจฉาณุDen. farmeri เป็นกล้วยไม้ที่ลำลูกกล้วยลักษณะเป็นพูตอนบนใหญ่ตอนล่างเล็กรูปสี่เหลี่ยมยาวประมาณ 20–30 เซนติเมตรลำลูกกล้วยแต่ละลำมีใบ 3–4 ใบลักษณะใบเป็นรูปไข่ยาวประมาณ 10–15 เซนติเมตรออกดอกในเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคมดอกเป็นช่อห้อยยาวประมาณ 15–25 เซนติเมตรช่อหนึ่งมีหลายดอกก้านช่อดอกยาวดอกหลวมทั้งกลีบดอกนอกและในมีสีม่วงชมพูหรือขาวปากสีเหลืองมีขนเป็นกำมะหยี่ขนาดดอกโตประมาณ 2-4 เซนติเมตรพบมากทางภาคเหนือภาคตะวันออกภาคตะวันตกและภาคใต้

  9. เอื้องเงินหลวงDen. formosum เป็นกล้วยไม้ที่มีลำลูกกล้วยตั้งตรงกลมค่อนข้างอ้วนความยาวประมาณ 30–50 เซนติเมตรที่กาบใบมีขนสีดำลักษณะใบรูปไข่ยาวรียาวประมาณ 10–15 เซนติเมตรปลายใบมี 2 แฉกไม่เท่ากันออกดอกที่ยอดช่อดอกสั้นช่อหนึ่งๆมี 3–5 ดอกกลีบดอกมีสีขาวปากสีเหลืองส้มโคนปากสอบปลายปากเว้ามีสันนูนสองสันจากโคนออกมาถึงกลางปากขนาดดอกโตประมาณ 10 เซนติเมตรมีกลิ่นหอมอ่อนออกดอกเดือนตุลาคมถึงธันวาคมพบทางภาคเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนภาคตะวันตกและภาคใต้

  10. เอื้องเงินDen. draconis มีลักษณะลำต้นคล้ายกับเอื้องเงินหลวงแต่จะมีลำและใบสั้นกว่าก้านช่อสั้นมีดอกประมาณ 2-5 ดอกดอกขนาด 8-9 เซนติเมตรกลีบขาวปากสีส้มอมแดงออกดอกเดือนมีนาคมถึงเมษายนพบมากที่ภาคเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือภาคตะวันออกและภาคตะวันตก

  11. เอื้องเงินแดงDen. cariniferum ลักษณะลำต้นเจริญทางด้านข้างลำลูกกล้วยทรงกระบอกผิงมักเป็นร่องใบรูปขอบขนานปลายเบี้ยวออกดอกเป็นช่อ 2-5 ดอกดอกกว้าง 3-4 ซม. กลีบดอกสีขาวครีมปลายสีเหลืองโคนของกลีบปากสีส้มเข้มถึงส้มแดงกระดกห่อขึ้นปลายแผ่เป็นแผ่นค่อนข้างยาวขอบหยักเป็นคลื่นสีเหลืองอมส้มถึงขาวกลางกลีบเป็นสันนูนมีเส้นสีส้มเป็นริ้วตามความยาวกลีบเป็นระยะดอกมีกลิ่นหอมออกดอกช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคมพบมากทางภาคเหนือ

  12. เอื้องมะลิ, แส้พระอินทร์Den. crumenatum ออกดอกเป็นช่อ 1-2 ดอกตามข้อต้นในส่วนที่ไม่มีใบของปลายลูกกล้วยกลีบดอกสีขาวกางผายออกโคนกลีบปากเชื่อมติดกันหูกลีบปากกระดกขึ้นทั้งสองข้างปลายผายออกมีสีเหลืองที่กลางกลีบปากดอกขนาด 2-3 เซนติเมตรดอกบานเพียงวันเดียวมีกลิ่นหอมฉุนช่วงออกดอกไม่แน่นอนส่วนใหญ่จะออกดอกช่วงที่มีอากาศร้อนแล้วมีฝนตกหรือในช่วงฤดูฝนพบตามป่าดิบทางภาคใต้ภาคกลางและภาคตะวันตก

  13. เอื้องสายประสาท, เอื้องสายน้ำผึ้งDen. primulinum เป็นกล้วยไม้ที่ลำลูกกล้วยกลมเกือบเท่ากันทั้งลำรูปทรงตรงหรือโค้งเล็กน้อยยาวประมาณ 30–45 เซนติเมตรใบเล็กลงไปทางยอดใบตัดเฉียงๆตามยาวประมาณ 10 เซนติเมตรเมื่อใบแก่จะทิ้งใบออกดอกตามข้อที่ทิ้งใบแล้วออกดอกในเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมดอกเป็นช่อๆละ 1–2 ดอกตามข้อของลำลูกกล้วยลักษณะกลีบดอกนอกและในยาวรีเท่ากันสีม่วงอ่อนปากรูปกรวยเป็นวงกลมสีเหลืองมะนาวขนาดดอกโตประมาณ 5–7 เซนติเมตรพบทางภาคเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนภาคตะวันตกและภาคใต้

  14. เอื้องเก๊ากิ่วแม่สะเรียง, เอื้องไม้ตึงDen. tortile ลำต้นเจริญทางด้านข้างโคนลำลูกกล้วยคอดใบรูปขอบขนานออกดอกเป็นช่อตามข้อ 3-6 ดอกต่อข้อดอกกว้าง 5-7 เซนติเมตรกลีบดอกสีม่วงมักบิดเป็นคลื่นมีเส้นสีม่วงตามความยาวกลีบโคนกลีบปากม้วนขึ้นเป็นกลีบยาวโคนสีม่วงปลายผายออกสีเหลืองอ่อนออกดอกเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายนพบทางภาคเหนือภาคตะวันตกและภาคใต้

  15. เอื้องแปรงสีฟันDen. secundum ใบรูปขอบขนานแกมรูปแถบออกดอกที่ปลายกิ่งเป็นช่อยาวดอกจำนวนมากกลีบงุ้มเข้าหากันสีม่วงอมชมพูกลีบปากเป็นทรงกระบอกปลายกลีบปากสีเหลืองดอกกว้างประมาณ 1 เซนติเมตรยาวประมาณ 1-2 เซนติเมตรออกดอกช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายนช่วงออกดอกมักผลัดใบพบมากทางภาคเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือภาคตะวันออกและภาคใต้

  16. เอื้องสายหลวง, เอื้องสายDen. anosmum ลำลูกกล้วยห้อยลงเป็นสายยาวใบรูปรีขอบขนานปลายใบแหลมดอกเดี่ยวออกตามข้อดอกกว้าง 4-5 เซนติเมตรสีม่วงอ่อนกลีบปากรูปทรงกลมปลายแหลมโคนกลีบปากม้วนเข้าหากันและมีแต้มสีม่วงเข้มทั้งสองด้านผิวกลีบด้านในมีขนปกคลุมผิวด้านนอกมีขนเฉพาะขอบกลีบดอกมีกลิ่นหอมออกดอกเดือนเมษายนถึงมิถุนายนช่วงออกดอกมักผลัดใบพบทางภาคใต้

  17. เอื้องครั่งDen. parishii ลำลูกกล้วยรูปรีค่อนข้างอวบใบรูปขอบขนานแกมรูปไข่ออกดอกที่ข้อ 1-3 ดอกดอกกว้าง 3-5 เซนติเมตรกลีบดอกสีม่วงโคนกลีบดอกกระดกห่อขึ้นปลายกลีบแหลมมีขนสั้นๆปกคลุมกลางกลีบสีม่วงดอกมีกลิ่นหอมออกดอกช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมพบทางภาคเหนือภาคกลางตอนบนและภาคตะวันตก

  18. เอื้องคำ Den. chrysotoxum เป็นกล้วยไม้ที่มีลำลูกกล้วยรูปทรงหลายเหลี่ยมโดยจะมีตอนกลางลำโป่งแล้วเรียวลงมาโคนและยอดความยาวประมาณ 20–50 เซนติเมตรเมื่อลำแก่จะมีสีค่อนข้างเหลืองตอนบนของลำจะมีใบอยู่ 4–5 ใบยาวประมาณ 20–30 เซนติเมตรออกดอกเป็นช่อ 12-25 ดอกแต่ละช่อดอกจะห่างไม่อัดแน่นดอกมีสีส้มสดกลีบปากสีส้มมีขนาดใหญ่โคนกระดกห่อขึ้นปลายบานเป็นทรงกลมมีขนนุ่มปกคลุมขอบกลีบหยักเป็นคลื่นขนาดดอกประมาณ 3-5 เซนติเมตรมีกลิ่นหอมออกดอกช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมพบทางภาคเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและภาคตะวันตก

  19. แววมยุราDen. fimbriatum เป็นกล้วยไม้ที่มีลำลูกกล้วยยาวกว่า 60 เซนติเมตรมีผิวเป็นร่องตื้นๆใบรูปหอกยาวประมาณ 15 เซนติเมตรช่อดอกห้อยยาวประมาณ 15 เซนติเมตรช่อหนึ่งมี 7–15 ดอกกลีบนอกยาวรีกลีบในเป็นรูปไข่สีเหลืองกลีบปากเกือบกลมมีสีเข้มกว่ากลีบดอกผิวมีขนนุ่มละเอียดปกคลุมขอบกลีบหยักกลางกลีบมีแต้มสีม่วงเข้มเกือบดำดอกกว้าง 3-4 เซนติเมตรออกดอกเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมพบทางภาคเหนือ

  20. กล้วยไม้มีระบบรากแบ่งเป็นหลายชนิดเช่นรากดินรากกึ่งดินรากกึ่งอากาศและรากอากาศกล้วยไม้มีระบบรากแบ่งเป็นหลายชนิดเช่นรากดินรากกึ่งดินรากกึ่งอากาศและรากอากาศ ระบบรากดิน จัดเป็นกล้วยไม้ที่มีระบบรากเกิดจากหัวที่อวบน้ำอยู่ใต้ดินตัวรากจะมีน้ำมากเช่นกล้วยไม้สกุลนางอั้วกล้วยไม้ประเภทนี้พบมากบริเวณพื้นที่ที่มีสภาพอากาศในฤดูกาลที่ชัดเจนเช่นฤดูฝนมีฝนตกชุกและมีฤดูแล้งเมื่อถึงฤดูฝนหัวจะแตกหน่อใบอ่อนจะชูพ้นขื้นมาบนผิวดินและออกดอกในตอนปลายฤดูฝนเมื่อพ้นฤดูฝนไปแล้วใบก็จะทรุดโทรมและแห้งไปคงเหลือแต่หัวที่อวบน้ำและมีอาหารสะสมฝังอยู่ใต้ดินสามารถทนความแห้งแล้งได้

  21. ระบบรากกึ่งดิน มีรากซึ่งมีลักษณะอวบน้ำใหญ่หยาบและแตกแขนงแผ่กระจายอย่างหนาแน่นสามารถเก็บสะสมน้ำได้ดีพอสมควรกล้วยไม้ประเภทนี้พบอยู่ตามอินทรีย์วัตถุที่เน่าเปื่อยผุพังร่วนโปร่งกล้วยไม้ที่มีระบบรากกึ่งดินได้แก่กล้วยไม้สกุลรองเท้านารีสกุลสเปโธกล๊อตติสสกุลเอื้องพร้าวเป็นต้น

  22. ระบบรากกึ่งอากาศ เป็นระบบรากที่มีเซลล์ผิวของรากมีชั้นเซลล์ที่หนาและมีลักษณะคล้ายฟองน้ำผิวนอกเกลี้ยงไม่มีขนมีลักษณะคล้ายฟองน้ำเก็บและดูดน้ำได้มากสามารถนำน้ำไปใช้ตามเซลล์ผิวได้ตลอดความยาวของรากระบบรากกึ่งอากาศมักมีรากแขนงใหญ่หยาบอยู่กันอย่างหนาแน่นไม่มีรากขนอ่อนรากมีขนาดเล็กกว่ารากอากาศกล้วยไม้ระบบรากกึ่งอากาศได้แก่กล้วยไม้สกุลแคทลียาสกุลออนซิเดี้ยมเป็นต้น

  23. ระบบรากอากาศ กล้วยไม้ที่มีระบบรากเป็นรากอากาศจะมีรากขนาดใหญ่แขนงรากหยาบเซลล์ที่ผิวรากจะทำหน้าที่ดูดน้ำเก็บน้ำและนำน้ำไปตามรากได้เป็นอย่างดีทำให้สามารภทนทานต่อความแห้งแล้งได้ดีรากอากาศไม่ชอบอยู่ในสภาพเปียกแฉะนานเกินไปนอกจากนั้นปลายรากสดมีสีเขียวของคลอโรฟีลล์สามารถทำหน้าที่ปรุงอาหารได้เช่นเดียวกับใบเมื่อมี่แสงสว่างเพราะฉะนั้นรากประเภทนี้จึงไม่หลบแสงสว่างเหมือนรากต้นไม้ดินทั่วๆไปกล้ายไม้ที่มีระบบรากอากาศได้แก่กล้วยไม้สกุลแวนด้าสกุลช้างสกุลกุหลาบสกุลแมลงปอสกุลเข็มและกล้ายไม้สกุลเรแนนเธอร่า

  24. หมายถึงส่วนที่เป็นข้อบริเวณส่วนเหนือข้อและติดอยู่กับข้อจะมีตาตาอาจจะแตกเป็นหน่ออ่อนกิ่งอ่อนหรือช่อดอกก็ได้ส่วนที่เป็นข้อเป็นส่วนที่มีใบกาบใบหรือกาบของลำต้นที่ไม่มีส่วนของใบเจริญออกมาได้ส่วนที่อยู่ระหว่างข้อเรียกว่าปล้องสำหรับลำต้นของกล้วยไม้ที่โผล่พ้นจากเครื่องปลูกแบ่งได้ 2 ประเภทคือลำต้นแท้และลำต้นเทียม

  25. ลำต้นแท้ ลำต้นแท้คือลำต้นที่มีข้อปล้องเหมือนกับลำต้นของพืชใบเลี้ยงเดี่ยวทั่วไปที่ส่วนเหนือข้อจะมีตาซึ่งสามารถเจริญเป็นหน่อใหม่และช่อดอกได้ลำต้นประเภทนี้จะเจริญเติบโตออกไปทางยอดได้แก่กล้วยไม้สกุลแวนด้าแมลงปอและรองเท้านารี

  26. ลำต้นเทียม ลำต้นเทียมหรือที่เรียกว่าลำลูกกล้วยทำหน้าที่สะสมอาหารตาที่อยู่ตามข้อบนๆของลำลูกกล้วยสามารถแตกเป็นหน่อหรือช่อดอกได้แต่ลำต้นที่แท้จริงของกล้วยไม้ประเภทนี้คือเหง้าซึ่งเจริญในแนวนอนไปตามผิวของเครื่องปลูกลักษณะของเหง้ามีข้อและและปล้องถี่กล้วยไม้ที่มีลำต้นลักษณะนี้ได้แก่กล้วยไม้สกุลหวายแคทลียาเอพิเด็นดรั้มและสกุลออนซิเดี้ยม

  27. กล้วยไม้เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวคือเส้นใบจะอยู่ในลักษณะขนานกันไปตามความยาวของใบใบของกล้วยไม้มีลักษณะที่แตกต่างกันออกไปตามชนิดของกล้วยไม้นับตั้งแต่รูปร่างสีสันขนาดและการทรงตัวตามธรรมชาติลักษณะใบของกล้วยไม้มีหลายชนิดเช่นใบแบนใบกลมและใบร่องซึ่งเป็นลูกผสมระหว่างพวกใบกลมกับใบแบนแต่ใบกล้วยไม้ส่วนมากแล้วจะมีลักษณะแบนการเรียงตัวจะมีทั้งเรียงสลับกันและเรียงซ้อนทับกันสีของใบส่วนมากมีสีเขียวอมเหลืองบางชนิดใบมีสีสันลวดลายสวยงามหน้าที่ของใบคือสังเคราะห์แสงโดยสารสีเขียวเรียกว่าคลอโรฟีลล์ที่อยู่ภายในใบร่วมกับแสงสว่างช่วยให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศผ่านเข้าไปทางรูถ่ายก๊าซของใบทำปฏิกิริยากับน้ำเกิดเป็นน้ำตาลนอกจากนี้ใบยังทำหน้าที่คายน้ำออกจากต้นช่วยให้รากสามารถดูดน้ำและอาหารเข้าสู่ต้นเป็นการแทนที่น้ำที่ระเหยออกจากใบทำให้ต้นได้อาหารหรือปุ๋ยผ่านเข้าทางรากได้

  28. ใบของกล้วยไม้มีลักษณะแตกต่างกันตามสายพันธุ์เช่นกล้วยไม้ในสกุลสแพโตกล๊อตทิส (Spathoglottis) มีลักษณะใบเป็นจีบกล้วยไม้พญาไร้ใบ (Chiloschista usneoides LDL) มีลักษณะใบที่เล็กมากเกาะอยู่ตามกิ่งไม้ในที่ค่อนข้างร่มมีรากหนาแน่นสีเขียวสามารถปรุงอาหารได้ใบจึงเจริญออกมามีขนาดใหญ่กว่าหัวเข็มหมุดเล็กน้อยกล้วยไม้รองเท้านารี (Paphilopedilum) ลักษณะใบมีสีสรรงดงามหลายชนิดมีใบสีเขียวแก่สลับเขียวอ่อนกล้วยไม้ (Anoectochilus siamensis) ลักษณะใบมีสีน้ำตาลอมแดงและมีลายหรือกระสีขาวสวยงามมาก

  29. มีลักษณะแตกต่างกันไปอย่างกว้างขวางแล้วแต่สกุลและชนิดของกล้วยไม้บางชนิดมีก้านช่อสั้นมากบางชนิดมีก้านช่อยาวบางชนิดมีช่อดอกตั้งแข็ง (Erect) บางชนิดมีช่อดอกลักษณะโค้งหรือห้อยหัวลงเช่นช่อดอกกล้วยไม้ไอยเรศ (Rhynchostylis retusa) กล้วยไม้บางชนิดมีช่อดอกยาวและมีแขนงแยกออกไปอีกเช่นช่อดอกกล้วยไม้ในสกุลเรแนนเธอร่า (Renanthera) ก้านซึ่งเป็นแกนกลางของช่อดอกจะประกอบด้วยข้อและปล้องช่อดอกของกล้วยไม้บางชนิดมีตาซึ่งอยู่ตามข้อของก้านที่เป็นแกนช่อสามารถแตกและเจริญออกมาเป็นต้นกล้วยไม้เล็กๆได้เช่นก้านช่อของกล้วยไม้สกุลฟาแลนด์น๊อฟซิสเป็นต้น

  30. ดอก ดอกกล้วยไม้เป็นดอกสมบูรณ์เพศคือเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียอยู่ในดอกเดียวกันมีหน้าที่ในการสืบพันธุ์ดอกมีลักษณะคือกลีบรองดอกคือกลีบชั้นนอกเป็นส่วนที่ห่อหุ้มป้องกันส่วนต่างๆในขณะที่มีสภาพเป็นตาดอกอยู่มักมีลักษณะและสีสันคล้ายใบกลีบดอกกล้วยไม้กลีบดอก 6 กลีบแบ่งออกเป็น 2 ชั้นชั้นนอก 3 กลีบและชั้นใน 3 กลีบกลีบชั้นนอกอยู่ข้างบนหนึ่งกลีบข้างๆหรือข้างล่าง 2 กลีบกลีบคู่ล่างนี้จะมีขนาดรูปร่างและสีสันเหมือนกันแต่กลีบบนอาจแตกต่างออกไปสำหรับกลีบชั้นใน 3 กลีบกลีบหนึ่งอยู่ข้างล่างอีก 2 กลีบอยู่ข้างบนกลีบคู่นี้จะมีขนาดรูปทรงสีสันเหมือนกันส่วนกลีบล่างจะเปลี่ยนไปโดยมีขนาดเล็กลงหรือโตขึ้นและมีสีสันผิดไปจากกลีบคู่บนกลีบคู่ล่างมีชื่อเรียกเฉพาะว่าปากหรือกระเป๋า

  31. เกสร คืออวัยวะที่แท้จริงของพืชมีดอกหรือเป็นส่วนประกอบเพื่อช่วยให้การผสมพันธุ์กล้วยไม้เป็นพืชที่มีดอกสมบูรณ์เพศคือมีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียอยู่ในดอกเดียวกันเกสรกล้วยไม้มีลักษณะเฉพาะคือส่วนของก้านชูยอดเกสรเมียกับก้านชูอับเรณูของเกสรผู้รวมเป็นอวัยวะอันเดียวกันและยอดเกสรเมียกับเรณูติดอยู่ส่วนนี้รวมเรียกส่วนนี้ทั้งหมดว่า “เส้าเกสร” ซึ่งจะยื่นออกมาจากจุดเดียวกันกับที่โคนกลีบดอกติดอยู่ที่ปลายสุดของเส้าเกสรเป็นที่อยู่ของเรณูซึ่งเป็นเชื้อเพศผู้เรณูนี้เป็นเม็ดขนาดเล็กมากมีฝาครอบปิดอยู่มิดชิดเรณูของกล้วยไม้มักเกาะกันเป็นก้อนเหนียวๆเรียกว่าก้อนเรณูถัดจากปลายสุดลงมาเป็นแอ่งกลมเล็กมีน้ำเหนียวอยู่เต็มแอ่งส่วนนี้คือแอ่งยอดเกสรตัวเมียการผสมพันธุ์กล้วยไม้เริ่มแรกก้อนเรณูจะต้องเข้าไปในแอ่งน้ำเหนียวจะทำหน้าที่กระตุ้นให้เม็ดเรณูงอกเข้าไปผสมพันธุ์กับไข่ในรังไข่ต่อไปบริเวณก้านดอกส่วนที่อยู่ชิดกับโคนกลีบดอกซึ่งจะมีขนาดใหญ่กว่าก้านดอกที่ต่ำลงไปก้านดอกส่วนนี้เป็นที่อยู่ของอวัยวะเพศเมียอีกส่วนหนึ่งคือรังไข่ภายในรังไข่จะมีไข่อ่อนเป็นเม็ดเล็กๆเกาะติดอยู่มากมายไข่อ่อนเหล่านี้เมื่อได้รับการผสมเชื้อเพศผู้จากเรณูก็จะมีการเปลี่ยนแปลงและเจริญเติบโตกลายเป็นเมล็ดใช้สำหรับสืบพันธุ์ต่อไป

  32. ผลและฝัก ฝักกล้วยไม้มีอายุตั้งแต่ผสมเกสรไปจนถึงฝักแก่จะแตกต่างกันไปตามชนิดของกล้วยไม้ร่วมกับสภาพแวดล้อมและความสมบูรณ์ขององค์ประกอบในการเจริญงอกงามกล้วยไม้บางชนิดฝักอาจจะแก่ได้ในระยะเวลาเพียงเดือนกว่าเท่านั้นบางชนิดฝักจะอยู่กับต้นถึงปีครึ่งถึงจะแก่ฝักกล้วยไม้ประเภทไม่แตกกอมักจะห้อยปลายลงเป็นส่วนมากเช่นฝักของกล้วยไม้สกุลหวายเป็นต้นแต่ละฝักมีเมล็ดเป็นจำนวนมากเมล็ดมีลักษณะเรียวยาวหรือป่องกลางคล้ายลูกรักบี้เมล็ดมีขนาดเล็กมากมีแต่คัพภะแต่ไม่มีอาหารสะสมมีเปลือกบางๆหุ้มเมล็ดอยู่มีสีแตกต่างกันไปเช่นน้ำตาลเทาเหลืองหรือขาวและด้วยเหตุที่เมล็ดกล้วยไม้มีขนาดเล็กมากจึงอาจปลิวกระจายไปตามลมได้ง่ายและเป็นระยะทางไกลได้

  33. การล้างลูกกล้วยไม้ วิธีการปลูกเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยบังคับการเจริญเติบโตของกล้วยไม้ถ้าใช้วิธีการปลูกที่ไม่เหมาะสมกล้วยไม้ก็ไม่เจริญงอกงามเท่าที่ควรดังนั้นผู้ปลูกเลี้ยงกล้วยไม้จึงจำเป็นต้องศึกษาความต้องการของกล้วยไม้แต่ละชนิดเลือกภาชนะปลูกและเครื่องปลูกรวมทั้งวิธีการปลูกให้เหมาะสมกับกล้วยไม้ชนิดนั้นๆ คือการล้างลูกกล้วยไม้จากการเพาะเนื้อเยื่อออกจากขวดเพาะแล้วล้างให้หมดเศษวุ้นอาหารนำจุ่มลงในน้ำยานาตริฟินในอัตราส่วนน้ำยา 1 ส่วนต่อน้ำสะอาด 2,000 ส่วนแล้วนำไปผึ่งให้แห้งในที่ร่มแยกลูกกล้วยไม้ออกเป็น 2 ขนาดคือขนาดเล็กกับขนาดใหญ่พอจะปลูกลงในกระถางนิ้ว

  34. การปลูกลูกกล้วยไม้ขนาดเล็กการปลูกลูกกล้วยไม้ขนาดเล็ก ลูกกล้วยไม้ขนาดเล็กให้ปลูกในกระถางหมู่หรือกระถางดินเผาทรงสูงขนาด 4-6 นิ้วรองก้นกระถางด้วยถ่านขนาดประมาณ 1 นิ้วสูงจนเกือบถึงขอบล่างของกระถางแล้วโรยทับด้วยออสมันด้าหนาประมาณ 1 นิ้วให้ระดับออสมันด้าต่ำกว่าขอบกระถางประมาณครึ่งนิ้วใช้มือข้างหนึ่งจับไม้กลมๆเจาะผิวหน้าออสมันด้าในกระถางให้เป็นรูลึกและกว้างพอสมควรใช้มืออีกข้างหนึ่งจับปากคีบคีบลูกกล้วยเบาๆเอารากหย่อนลงไปในรูที่เจาะไว้ให้ยอดตั้งตรงแล้วกลบออสมันด้าลงไปในรูให้ทับรากจนเรียบร้อยควรจัดระยะห่างระหว่างต้นให้พอดีกระถางหมู่ขนาดปากกว้าง 4 นิ้วปลูกลูกกล้วยไม้ได้ประมาณ 40-50 ต้น

  35. การปลูกลูกกล้วยไม้ขนาดใหญ่การปลูกลูกกล้วยไม้ขนาดใหญ่ ลูกกล้วยไม้ที่ต้นใหญ่ให้ปลูกในกระถางขนาด 1 นิ้วใช้ไม้แข็งๆค่อยๆแคะออสมันด้าในกระถางตามแนวตั้งออกมาใช้นิ้วมือรัดเส้นออสมันด้าให้คงเป็นรูปตามเดิมค่อยๆแบะออสมันด้าให้แผ่บนฝ่ามือหยิบลูกกล้วยไม้มาวางทับให้โคนต้นอยู่ในระดับผิวหน้าตัดของออสมันด้าพอดีหรือต่ำกว่าเล็กน้อยแล้วรวบออสมันด้าเข้าด้วยกันนำกลับไปใส่กระถางตามเดิมเสร็จแล้วนำเข้าไปเก็บไว้ในเรือนเลี้ยงลูกกล้วยไม้สำหรับลูกกล้วยไม้ขนาดเล็กที่อยู่ในกระถางหมู่มาเป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือนขึ้นไปมีลำต้นใหญ่แข็งแรงพอสมควรแล้วควรย้ายไปปลูกลงในกระถางนิ้วโดยนำกระถางหมู่ไปแช่น้ำประมาณ 10 นาทีค่อยๆแกะรากที่จับกระถางและเครื่องปลูกออกแยกเป็นต้นๆนำไปปลูกลงในกระถางนิ้วเช่นเดียวกัน

  36. การปลูกลงในกระเช้า เมื่อลูกกล้วยไม้ในกระถางนิ้วมีรากเจริญแข็งแรงดีมีใบยาวประมาณข้างละ 2 นิ้วซึ่งจะใช้เวลาในการปลูกประมาณ 6-7 เดือนก็นำไปลงปลูกในกระเช้าไม้ขนาด 3-5 นิ้วด้วยการนำกระถางนิ้วไปแช่น้ำประมาณ 5-10 นาทีเพื่อให้แกะออกจากกระถางได้ง่ายใช้นิ้วดันที่รูก้นกระถางทั้งต้นและออสมันด้าจะหลุดออกมามือข้างหนึ่งจับออสมันด้าและลูกกล้วยไม้วางลงตรงกลางกระเช้าที่เตรียมไว้มืออีกข้างหนึ่งหยิบก้อนถ่านไม้ขนาดพอเหมาะใส่ลงไปในช่องระหว่างออสมันด้ากับผนังของกระเช้าให้พยุงลำต้นได้นำไปแขวนไว้ในเรือนกล้วยไม้

  37. การย้ายภาชนะปลูก เมื่อลูกกล้วยไม้มีใบยาว 4-5 นิ้วควรจะย้ายไปปลูกในกระเช้าไม้ขนาด 8-10 นิ้วโดยสวมกระเช้าเดิมลงไปในกระเช้าใหม่เพื่อมิให้รากกระทบกระเทือนใช้ก้อนถ่านไม้ก้อนใหญ่ๆวางเกยกันโปร่งๆหรือจะไม่ใช้เลยก็ได้เนื่องจากกล้วยไม้ไม่ต้องการเครื่องปลูกที่แน่นและชื้นแฉะเป็นเวลานานๆถ้าไม่ต้องการสวมกระเช้าเดิมลงไปก็นำกระเช้าเดิมไปแช่น้ำก่อนเพื่อให้แกะรากที่จับติดกระเช้าออกได้ง่ายนำต้นที่แกะออกแล้ววางตรงกลางกระเช้าให้ยอดตั้งตรงมัดรากบางรากให้ติดกับซี่พื้นด้านข้างของกระเช้า

  38. การตกแต่งกล้วยไม้ต้นใหญ่ก่อนปลูกการตกแต่งกล้วยไม้ต้นใหญ่ก่อนปลูก นอกจากนั้นยังอาจนำกล้วยไม้ต้นใหญ่ไปผูกติดกับท่อนไม้หรือกระเช้าสีดาให้บริเวณโคนต้นติดอยู่กับภาชนะปลูกส่วนยอดอาจตั้งตรงทาบขึ้นไปหรือลำต้นโน้มไปข้างหน้าและส่วนยอดเงยขึ้นมัดลำต้นตรงบริเวณเหนือโคนต้นขึ้นไปเล็กน้อยให้ติดกับภาชนะปลูกด้วยเชือกฟางหรือลวด 1-2 จุดและมัดรากใหญ่ๆให้ติดกับภาชนะปลูกอีก 1-2 จุดเพื่อให้ติดแน่นอาจใช้กาบมะพร้าวกาบอ่อนชุบน้ำให้ชุ่มมัดหุ้มบางๆรอบโคนต้นกล้วยไม้เหนือบริเวณที่เกิดรากเล็กน้อยกับท่อนไม้ก็ได้และนำท่อนไม้หรือกระเช้าสีดาไปแขวนบนราวเมื่อเกิดรากใหม่เกาะติดภาชนะปลูกดีแล้วจึงตัดเชือกฟางหรือลวดออก สำหรับกล้วยไม้ลำต้นใหญ่ที่ได้มาจากที่อื่นหรือจากการแยกหน่อจะต้องตัดรากและใบที่เน่าหรือเป็นแผลใหญ่ๆทิ้งเสียก่อนรากบางส่วนที่ยังดีแต่ยาวเกินไปอาจตัดให้สั้นจนเกือบถึงโคนต้นแล้วทาแผลที่ตัดทุกแผลด้วยปูนแดงหรือยาป้องกันโรคเช่นออร์โธไซด์ 50 ผสมน้ำให้เละมากๆนำต้นกล้วยไม้ลงปลูกในกระเช้าไม้ซึ่งมีขนาดเหมาะสมกับลำต้น

  39. ภาชนะที่ใช้ปลูก ภาชนะที่ใช้ในการปลูกกล้วยไม้มีส่วนสำคัญต่อการเจริญงอกงามของกล้วยไม้ดังนั้นจึงควรจัดภาชนะปลูกให้เหมาะกับการเจริญของรากกล้วยไม้แต่ละประเภทภาชนะสำหรับปลูกกล้วยไม้มีหลายชนิดดังนี้ กระถางดินเผาทรงเตี้ยเป็นกระถางดินเผาขนาดปากกว้าง 4-6 นิ้วสูง 2-4 นิ้วเจาะรูที่ก้นและรอบกระถางเหมาะกับกล้วยไม้รากอากาศเช่นกล้วยไม้สกุลแวนด้าสกุลเข็มสกุลกุหลาบสกุลช้างการปลูกไม่จำเป็นต้องใส่เครื่องปลูกใดๆหรืออาจใส่ถ่านไม้มะพร้าวสับวางให้โปร่งก็พอวางต้นกล้วยไม้กลางกระถางแล้วใช้เชือกหรือลวดเส้นเล็กๆผูกติดกับก้นกระถาง

  40. กระถางดินเผาทรงสูง เป็นกระถางดินเผาขนาดปากกว้าง 3-4 นิ้วสูง 4-5 นิ้วเจาะรูที่ก้นและรอบกระถางแต่รูน้อยกว่ากระถางทรงเตี้ยเหมาะกับกล้วยไม้ที่ต้องการเครื่องปลูกหรือกล้วยไม้รากกึ่งอากาศเช่นคัทลียาหวายโดยปลูกด้วยกาบมะพร้าวอัดเรียงตามแนวตั้งจนแน่นยึดรากและโคนกล้วยไม้ตรงกลางกระถางให้แน่น

  41. กระเช้าไม้สัก ทำจากไม้สักหรือไม้ชนิดอื่นนิยมทำเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสมีขนาดตั้งแต่ขนาด 4x4 นิ้วถึง 10x10 นิ้วเหมาะกับกล้วยไม้รากอากาศมีต้นใหญ่รากใหญ่เช่นกล้วยไม้สกุลแวนด้าสกุลเข็มสกุลกุหลาบสกุลช้างการปลูกด้วยกระเช้าไม้สักภายในไม่จำเป็นต้องใส่เครื่องปลูกใดๆหรืออาจใส่ถ่านไม้ก้อนใหญ่ๆ 2-3 ก้อนวางให้โปร่งก็พอวางต้นกล้วยไม้กลางกระถางแล้วใช้เชือกหรือลวดเส้นเล็กๆผูกติดกับก้นกระเช้า

  42. กระเช้าพลาสติก เป็นกระเช้าที่ทำจากพลาสติกสีดำราคาถูกมีหลายแบบหลายขนาดแต่ที่นิยมใช้มี 2 ขนาดคือขนาดทรงเตี้ยใช้ปลูกกล้วยไม้แวนด้าและขนาดทรงสูงใช้ปลูกกล้วยไม้หวายลักษณะการปลูกเช่นเดียวกับกระถางดินเผาทรงเตี้ยและกระถางดินเผาทรงสูง

  43. กระถางดินเผามีรูก้นกระถางกระถางดินเผามีรูก้นกระถาง เป็นกระถางดินเผาชนิดเดียวกับที่ใช้ปลูกต้นไม้ทั่วไปมีรูระบายน้ำอยู่ที่ก้นกระถางเพียงรูเดียวทั้งแบบทรงสูงทั่วไปและแบบทรงเตี้ยมีขนาดตั้งแต่ 4-10 นิ้วนิยมใช้ปลูกกล้วยไม้ที่มีระบบรากแบบรากกึ่งดินเช่นกล้วยไม้สกุลรองเท้านารีสกุลเอื้องพร้าวสกุลคูลูและสกุลสเปโธกล๊อตติส

  44. ท่อนไม้ที่มีเปลือก โดยผูกกล้วยไม้ติดกับท่อนไม้ที่มีเปลือกขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3-4 นิ้วยาวประมาณ 1 ฟุตปลายหนึ่งของท่อนไม้ยึดติดกับลวดใว้สำหรับแขวนกับราวเหมาะกับกล้วยไม้รากอากาศเช่นกล้วยไม้สกุลเข็มสกุลกุหลาบสกุลช้างสกุลแวนด้า

  45. ต้นไม้ใหญ่ โดยการปลูกยึดติดกับต้นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่เหมาะกับกล้วยไม้รากอากาศและรากกึ่งอากาศเช่นกล้วยไม้สกุลเข็มสกุลกุหลาบสกุลช้างสกุลหวายสำหรับกล้วยไม้ที่เป็นรากอากาศสามารถใช้ลวดหรือเชือกผูกติดกับต้นไม้ได้เลยแต่สำหรับกล้วยไม้ที่เป็นรากกิ่งอากาศให้หุ้มด้วยกาบกะพร้าวทับอีกชั้นหนึ่งยึดกาบมะพร้าวด้วยตาข่ายหรือซาแลนอีกชั้นหนึ่ง

  46. เครื่องปลูก ออสมันด้าเป็นเครื่องปลูกที่ได้มาจากรากของเฟิร์นลักษณะเป็นเส้นยาวสีน้ำตาลจนเกือบดำค่อนข้างแข็งก่อนที่จะใช้ต้องล้างให้สะอาดแล้วจึงอัดตามยาวลงไปในกระถางก่อนที่จะอัดลงในกระถางควรรองก้นกระถางด้วยกระเบื้องแตกหรือถ่านประมาณครึ่งหนึ่งของกระถางเพื่อให้ระบายน้ำได้สะดวกไม่ควรอัดออสมันด้าให้เต็มกระถางก่อนใช้ควรแช่น้ำหรือต้มเพื่อฆ่าเชื้อราเสียก่อนออสมันด้าเป็นเครื่องปลูกที่ดีแต่ราคาค่อนข้างสูงสามารถเลี้ยงกล้วยไม้ได้เจริญงอกงามสม่ำเสมอมีอายุการใช้งาน 2–3 ปีแต่มีข้อเสียคือมีตะไคร่น้ำขึ้นหน้าเครื่องปลูกและเกิดเชื้อราง่ายออสมันด้าใช้ปลูกกล้วยไม้แบบรากกึ่งอากาศเช่นกล้วยไม้สกุลหวายสกุลคัทลียา วัสดุที่ใส่ลงไปในภาชนะที่ใช้ปลูกกล้วยไม้เป็นที่เก็บอาหารเก็บความชื้นหรือปุ๋ยของกล้วยไม้และเพื่อให้รากของกล้วยไม้เกาะลำต้นจะได้ตั้งอยู่ได้เครื่องปลูกที่เหมาะสมกับลักษณะการเจริญเติบโตของรากกล้วยไม้จะทำให้กล้วยไม้เจริญเติบโตได้ดีและแข็งแรงเครื่องปลูกที่นิยมใช้มีดังนี้

  47. กาบมะพร้าว เป็นเครื่องปลูกที่นิยมใช้ปลูกกล้วยไม้มากเพราะหาง่ายราคาถูกเหมาะที่จะใช้อัดลงในกระถางดินเผาสำหรับใช้ปลูกกล้วยไม้รากกึ่งอากาศเช่นกล้วยไม้สกุลหวายสกุลคัทลียาวิธีทำคือใช้กาบมะพร้าวแห้งที่แก่จัดและมีเปลือกอัดตามยาวให้แน่นลงในกระถางตัดหน้าให้เรียบแล้วใช้แปรงลวดปัดหน้าให้เป็นขนเพื่อให้ดูดซับน้ำดีขึ้นเครื่องปลูกกาบมะพร้าวเป็นเครื่องปลูกที่ได้ความชื้นสูงเหมาะสำหรับกล้วยไม้ปลูกใหม่เพราะจะทำให้ตั้งตัวเร็วจึงทำให้กล้วยไม้เจริญงอกงามเร็วกว่าปลูกด้วยเครื่องปลูกชนิดอื่นๆแต่มีข้อเสียคือมีอายุการใช้งานได้ไม่นานคือมีอายุใช้งานได้เพียงปีเดียวเครื่องปลูกก็ผุข้อเสียอีกอย่างหนึ่งคือเกิดตะไคร่น้ำได้ง่ายเนื่องจากกาบมะพร้าวอมความชื้นไว้ได้มากจึงควรรดน้ำให้น้อยกว่าเครื่องปลูกชนิดอื่น

  48. ถ่าน ถ่านไม้จัดเป็นเครื่องปลูกกล้วยไม้ที่ดีชนิดหนึ่งเพราะหาง่ายราคาไม่แพงคงทนถาวรไม่เน่าเปื่อยผุพังง่ายและดูดอมน้ำได้ดียังช่วยดูดกลิ่นที่เน่าเสียและทำให้อากาศบริสุทธ์อีกด้วยแต่มีข้อเสียคือมักจะมีเชื้อราอยู่ในการใช้ถ่านเป็นเครื่องปลูกกล้วยไม้ถ้าเป็นกล้วยไม้ที่มีระบบรากแบบรากกึ่งอากาศเช่นกล้วยไม้สกุลหวายสกุลแคทลียาควรใช้ถ่านป่นซึ่งเป็นก้อนเล็กๆผสมกับอิฐหรือใช้อิฐหักรองก้นกระถางประมาณครึ่งกระถางแล้วใช้ถ่านป่นใส่ทับข้างบนจนเต็มหรือเกือบเต็มกระถางจากนั้นจึงเอากล้วยไม้ปลูกโดยวางทับไว้บนถ่านอีกชั้นหนึ่งสำหรับถ่านที่ใช้ปลูกกล้วยไม้ที่มีระบบรากแบบรากอากาศเช่นกล้วยไม้สกุลแวนด้าสกุลเข็มสกุลกุหลาบถ้าเป็นกล้วยไม้ขนาดเล็กหรือยังเป็นลูกกล้วยไม้อยู่เช่นมีขนาดสูงไม่เกิน 3 นิ้วควรใส่ถ่านก้อนเล็กๆแต่ถ้าเป็นกล้วยไม้ที่มีขนาดโตแล้วควรใส่ก้อนใหญ่ๆไว้ประมาณ 5-10 ก้อนเพื่อช่วยอุ้มความชุ่มชื้นไว้ให้กล้วยไม้

  49. ทรายหยาบและหินเกล็ด การปลูกกล้วยไม้ที่มีระบบรากกึ่งอากาศโดยเฉพาะพวกสกุลหวายมักใช้ทรายหยาบและหินเกล็ดที่ล้างสะอาดแล้วเป็นเครื่องปลูกโดยก้นกระถางใส่อิฐหักหรือหรือถ่านป่นไว้ส่วนด้านบนใช้ทรายหยาบโรยหนาประมาณ 1 นิ้วแล้วโรยทับด้วยหินเกล็ดหนาประมาณครึ่งนิ้วจากนั้นจึงนำหน่อกล้วยไม้ที่แยกจากกอเดิมไปปลูกวางไว้บนหินเกล็ดแล้วมัดติดกับหลักเพื่อยึดไม่ให้ล้มจนกว่ากล้วยไม้ที่ปลูกใหม่นี้มีรากยึดเครื่องปลูกและตั้งตัวได้

  50. อิฐหักและกระถางดินเผาแตกอิฐหักและกระถางดินเผาแตก อิฐหักอิฐดินเผาและกระถางดินเผาแตกใช้เป็นเครื่องปลูกรองก้นกระถางสำหรับปลูกกล้วยไม้ที่มีระบบรากกึ่งอากาศโดยมีออสมันด้ากาบมะพร้าวถ่านป่นอย่างใดอย่างหนึ่งอัดหรือโรยไว้ข้างบนเพื่อให้ด้านล่างของกระถางหรือภาชนะปลูกโปร่งอากาศถ่ายเทสะดวกและเป็นการช่วยในการระบายน้ำในกระถางได้ดีขึ้น

More Related