720 likes | 871 Views
รายวิชาคอมพิวเตอร์สร้างสรรค์ 2 รหัสวิชา ง 22204 ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ชั้น ม. 2 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 2 0 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วย กิต. สาระการเรียนรู้ที่ 4 ซอฟต์แวร์ระบบ ประกอบด้วยระบบปฏิบัติการ โปรแกรมแปลภาษา และโปรแกรมอรรถประโยชน์
E N D
รายวิชาคอมพิวเตอร์สร้างสรรค์ 2 รหัสวิชา ง 22204ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ชั้น ม.2 ภาคเรียนที่ 2เวลา 20 ชั่วโมงจำนวน 0.5 หน่วยกิต • สาระการเรียนรู้ที่ 4 ซอฟต์แวร์ระบบ ประกอบด้วยระบบปฏิบัติการ โปรแกรมแปลภาษา และโปรแกรมอรรถประโยชน์ • ผลการเรียนรู้ที่ 4 รู้และเข้าใจองค์ประกอบของซอฟต์แวร์ระบบ
ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ • Hardware (ฮาร์ดแวร์)เป็นส่วนที่ประกอบของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถมองเห็นและสัมผัสได้ เช่น ไมโครโปรเซสเซอร์ หน่วยความจำอุปกรณ์เก็บข้อมูลอุปกรณ์รับข้อมูลอุปกรณ์แสดงผลข้อมูล • Software(ซอฟต์แวร์)คือชุดคำสั่งที่เขียนขึ้นโดยโปรแกรมเมอร์ เพื่อสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงาน ซอฟต์แวร์จะถูกอ่านจากหน่วยบันทึกข้อมูล ส่งต่อไปยังซีพียู เพื่อควบคุมการประมวลผล และคำนวณ
ซอฟต์แวร์ (Software) • ซอฟต์แวร์ คือ ชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่สั่งให้ฮาร์ดแวร์ทำงาน แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software) 2. ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software)
การจัดหาซอฟต์แวร์มาใช้งานการจัดหาซอฟต์แวร์มาใช้งาน • แบบสำเร็จรูป (PackageSoftware) • แบบว่าจ้าง (CustomSoftware) • แบบทดลองใช้ (Shareware) • แบบใช้งานฟรี (Freeware) • แบบโอเพ่นซอร์ส(Public-Domain/OpenSource)
1.ซอฟต์แวร์ระบบ (SystemSoftware) • คือโปรแกรมที่มีหน้าที่ควบคุมการทำงานของฮาร์ดแวร์หรืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทุกอย่าง • แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1.1 ระบบปฎิบัติการ (operatingsystems) 1.2โปรแกรมอรรถประโยชน์ (utilityprograms)
1.1 ระบบปฎิบัติการ (operatingsystems) • ใช้สำหรับการควบคุมและประสานงานอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งหมดโดยเฉพาะกับส่วนนำเข้าและส่งออกผลลัพธ์ (I/O Device) • บางครั้งเรียกว่า แพลตฟอร์ม (platform) • คอมพิวเตอร์จะทำงานได้จำเป็นต้องมีระบบปฏิบัติการติดตั้งอยู่ในเครื่องเสียก่อน อาจแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ 1.1.1 ระบบปฏิบัติการแบบเดี่ยว (stand-aloneOS) 1.1.2 ระบบปฏิบัติการแบบเครือข่าย (networkOS) 1.1.3 ระบบปฏิบัติการแบบฝัง (embededOS)
ระบบปฏิบัติการแบบเดี่ยว (stand-aloneOS) • มุ่งเน้นและให้บริการสำหรับผู้ใช้เพียงคนเดียวเช่น พิมพ์รายงาน ดูหนัง ฟังเพลงหรือเชื่อมต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ต เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ตามบ้านหรือสำนักงานทั่วไป
ระบบปฏิบัติการแบบเครือข่าย (networkOS) • การทำงานแบบ Multi-User
ระบบปฏิบัติการแบบเดี่ยว (stand-aloneOS) • ระบบปฏิบัติDOS (DiskOperatingSystem)
ระบบปฏิบัติการแบบเดี่ยว (stand-aloneOS) • ระบบปฏิบัติWindows
ระบบปฏิบัติการแบบเดี่ยว (stand-aloneOS) • ระบบปฏิบัติUnix • รองรับกับการทำงานของผู้ใช้ได้หลายๆคนพร้อมกัน (multi-user)
ระบบปฏิบัติการแบบเดี่ยว (stand-aloneOS) • ระบบปฏิบัติ MacOSX ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ผลิตขึ้นโดยบริษัทแอปเปิ้ลเท่านั้น
ระบบปฏิบัติการแบบเดี่ยว (stand-aloneOS) • ระบบปฏิบัติ Linuxมีทั้งแบบที่ใช้สำหรับงานแบบเดี่ยวตามบ้านและแบบที่ใช้สำหรับงานควบคุมเครือข่าย
ระบบปฏิบัติการแบบเครือข่าย (NetworkOS) • ระบบปฏิบัติการ WindowsServerพัฒนาโดยบริษัทไมโครซอฟท์
ระบบปฏิบัติการแบบเครือข่าย (NetworkOS) • ระบบปฏิบัติการ OS/2 WarpServerพัฒนาโดยบริษัทไอบีเอ็ม
ระบบปฏิบัติการแบบเครือข่าย (NetworkOS) • ระบบปฏิบัติการ Solaris ผลิตโดยบริษัทซันไมโครซิสเต็มส์
ระบบปฏิบัติการแบบฝัง (EmbeddedOS) • PocketPCหรืออาจพบเห็นในมือถือประเภท smartphone บางรุ่น
ระบบปฏิบัติการแบบฝัง (EmbeddedOS) • ระบบปฏิบัติการ PalmOSใช้กับเครื่องที่ผลิตขึ้นโดยบริษัทปาล์ม
ระบบปฏิบัติการแบบฝัง (EmbeddedOS) • ระบบปฏิบัติการ SymbianOS • รองรับกับเทคโนโลยีการสื่อสารแบบไร้สาย (wireless) โดยเฉพาะ • นิยมใช้กับโทรศัพท์มือถือประเภท smartphone
1.2 โปรแกรมอรรถประโยชน์หรือโปรแกรมยูทิลิตี้ (UtilityProgram) • ส่วนใหญ่จะมีขนาดของไฟล์ที่เล็กกว่าระบบปฏิบัติการ • มีคุณสมบัติในการใช้งานค่อนข้างหลากหลายหรือใช้งานได้แบบอรรถประโยชน์ • นิยมเรียกสั้นๆว่า ยูทิลิตี้ (utility) • อาจแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดคือ 1.2.1 ยูทิลิตี้สำหรับระบบปฏิบัติการ (OSutilityprograms) 1.2.2 ยูทิลิตี้อื่นๆ (stand-aloneutilityprograms)
1.2.1 ยูทิลิตี้สำหรับระบบปฏิบัติการ(OSUtilityPrograms) • ตัวอย่างของยูทิลิตี้ที่ทำงานด้านต่างๆ • ประเภทการจัดการไฟล์ (FileManager) • ประเภทการลบทิ้งโปรแกรม (Uninstaller) • ประเภทการสแกนดิสก์ (DiskScanner) • ประเภทการจัดเรียงพื้นที่เก็บข้อมูล (DiskDefragmenter) • ประเภทรักษาหน้าจอ (ScreenSaver)
ยูทิลิตี้สำหรับระบบปฏิบัติการ(OSUtilityPrograms)ยูทิลิตี้สำหรับระบบปฏิบัติการ(OSUtilityPrograms) 1. ประเภทการจัดการไฟล์ (FileManager) • มีหน้าที่หลักในการจัดการเกี่ยวกับไฟล์ต่างๆเช่น การคัดลอก การเปลี่ยนชื่อ การลบและการย้ายไฟล์ เป็นต้น • ระบบปฏิบัติการ Windows รุ่นใหม่ๆยังได้เพิ่มคุณสมบัติที่เรียกว่า imageviewer เพื่อนำมาปรับใช้กับไฟล์รูปภาพได้
ยูทิลิตี้สำหรับระบบปฏิบัติการ(OS Utility Programs) 2. ประเภทการสแกนดิสก์ (DiskScanner) • สแกนหาข้อผิดพลาดต่างๆพร้อมทั้งหาทางแก้ปัญหาในดิสก์ • ประยุกต์ใช้เพื่อสแกนหาไฟล์ที่ไม่ต้องการใช้งาน (unnecessaryfiles) เมื่อใช้คอมพิวเตอร์ไประยะหนึ่งได้
ยูทิลิตี้สำหรับระบบปฏิบัติการ(OS Utility Programs) 3. ประเภทการจัดเรียงพื้นที่เก็บข้อมูล (DiskDefragmenter) • ช่วยในการจัดเรียงไฟล์ข้อมูลให้เป็นระเบียบ และเป็นกลุ่มเป็นก้อน • เมื่อต้องการใช้งานไฟล์ข้อมูลในภายหลังจะเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย และรวดเร็วกว่าเดิม
ยูทิลิตี้สำหรับระบบปฏิบัติการ(OS Utility Programs) 4. ประเภทการลบทิ้งโปรแกรม (Uninstaller) • ลบหรือกำจัดโปรแกรมที่ไม่ได้ใช้ออกไปจากระบบ • ทำให้พื้นที่เก็บข้อมูลมีเหลือเพิ่มมากขึ้น • ทำงานได้อย่างง่ายดาย
ยูทิลิตี้สำหรับระบบปฏิบัติการ(OS Utility Programs) 5. ประเภทรักษาหน้าจอ (ScreenSaver) • ช่วยถนอมอายุการใช้งานของจอคอมพิวเตอร์ให้ยาวนานมากขึ้น • ใช้ภาพเคลื่อนไหวไปมา และเลือกลวดลายหรือภาพได้ด้วยตนเอง • อาจพบเห็นกับการตั้งค่ารหัสผ่านของโปรแกรมรักษาหน้าจอเอาไว้ได้
1.2.2 ยูทิลิตี้อื่นๆ (Stand-AloneUtilityPrograms) • เป็นยูทิลิตี้ที่ทำงานด้านอื่นโดยเฉพาะไม่เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ • มักทำงานเฉพาะอย่าง หรือด้านใดด้านหนึ่ง • มีทั้งที่แจกให้ใช้ฟรีและเสียเงิน • มีให้เลือกใช้เยอะและหลากหลายมาก • ใช้ได้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่
ยูทิลิตี้อื่นๆ (Stand-AloneUtilityPrograms) 1. โปรแกรมป้องกันไวรัส (AntiVirusProgram) • ติดตั้งไว้เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับโปรแกรมประสงค์ร้าย • ต้องอัพเดทข้อมูลใหม่อยู่เสมอเพื่อให้รู้จักและหาทางยั้บยั้งไวรัสใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นทุกวัน • ควรติดตั้งไว้ในเครื่องทุกเครื่อง
ยูทิลิตี้อื่นๆ (Stand-Alone Utility Programs) 2. โปรแกรมไฟร์วอลล์ (PersonalFirewall) • ป้องกันการบุกรุกจากผู้ไม่ประสงค์ดี • สามารถติดตามและตรวจสอบรายการต่างๆของผู้บุกรุกได้ • เหมาะกับเครื่องที่ต้องการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลเป็นอย่างมาก
ยูทิลิตี้อื่นๆ (Stand-Alone Utility Programs) 3. โปรแกรมบีบอัดไฟล์ (FileCompressionUtility) • เป็นโปรแกรมที่ทำหน้าที่บีบอัดไฟล์ให้มีขนาดที่เล็กลง • ไฟล์ที่ได้จากการบีบอัดไฟล์บางครั้งนิยมเรียกว่า ซิปไฟล์ (zipfiles) • ยูทิลิตี้ที่นิยมใช้และรู้จักกันเป็นอย่างดี เช่น PKZip, WinZip เป็นต้น
2.ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (ApplicationSoftware) • พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้เฉพาะด้านเท่านั้น • แบ่งออกตามเกณฑ์ที่ใช้แบ่งได้ดังนี้ • แบ่งตามลักษณะการผลิต ได้ 2 ประเภทคือ • ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นใช้เองโดยเฉพาะ • ซอฟต์แวร์ที่หาซื้อได้โดยทั่วไป • แบ่งตามกลุ่มการใช้งาน ได้ 3 กลุ่มใหญ่คือ 2.1 กลุ่มการใช้งานทางด้านธุรกิจ 2.2 กลุ่มการใช้งานทางด้านกราฟิกและมัลติมีเดีย 2.3 กลุ่มใช้งานบนเว็บและการติดต่อสื่อสาร
ประเภทของซอฟต์แวร์ประยุกต์ประเภทของซอฟต์แวร์ประยุกต์ • แบ่งตามกลุ่มการใช้งานได้ 3 กลุ่มดังนี้ 2.1 กลุ่มการใช้งานทางด้านธุรกิจ (business) 2.2 กลุ่มการใช้งานทางด้านกราฟิกและมัลติมีเดีย (graphicandmultimedia) 2.3 กลุ่มสำหรับการใช้งานบนเว็บและการติดต่อสื่อสาร (webandcommunications)
ซอฟต์แวร์กลุ่มการใช้งานด้านธุรกิจซอฟต์แวร์กลุ่มการใช้งานด้านธุรกิจ • อาจแบ่งซอฟต์แวร์กลุ่มนี้ออกเป็นประเภท ได้ดังนี้ • ซอฟต์แวร์ประมวลผลคำ (Wordprocessing) • ซอฟต์แวร์ตารางคำนวณ (Spreadsheet) • ซอฟต์แวร์ฐานข้อมูล (Database) • ซอฟต์แวร์นำเสนองาน (Presentation) • ซอฟต์แวร์สำหรับพีดีเอ (PDASoftware) • ซอฟต์แวร์แบบกลุ่ม (SoftwareSuite) • ซอฟต์แวร์สำหรับจัดการโครงการ (Projectmanagement) • ซอฟต์แวร์สำหรับงานบัญชี (Accounting)
ซอฟต์แวร์ประมวลผลคำ (Word processing) • เป็นกลุ่มของโปรแกรมที่ช่วยในการประมวลผลคำ • สามารถจัดการเอกสารต่างๆได้ เช่น ขนาดตัวอักษรใหญ่ เล็ก รูปแบบตัวอักษร เป็นต้น • นำเอารูปภาพมาผนวกเข้ากับเอกสารได้ (คลิปอาร์ตและภาพถ่าย) • ตัวอย่างโปรแกรม เช่น MicrosoftWord, SunStarOfficeWriter
ซอฟต์แวร์ตารางคำนวณ (Spreadsheet) • กลุ่มของซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับการคำนวณต่างๆ • นำเอา ตารางคำนวณ (spreadsheet) มาใช้ในการทำงาน • หน่วยที่เล็กที่สุดบริเวณทำงานเรียกว่า เซล • นิยมใช้กับงานด้านบัญชีและรายการคำนวณ • ตัวอย่างโปรแกรม เช่น MicrosoftExcel, SunStarOfficeCalc บทที่ 3 คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์ฐานข้อมูล (Database) • สร้างและรวบรวมข้อมูลต่างๆให้อยู่เป็นระบบ • แก้ไขปรับปรุงรายการข้อมูลต่างๆ เช่นการเพิ่มข้อมูล การเปลี่ยนแปลงข้อมูล การลบข้อมูล หรือการจัดเรียงข้อมูลให้เป็นไปได้โดยง่าย • ตัวอย่างโปรแกรม เช่น MicrosoftAccess, Oracle, MySQL บทที่ 3 คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์นำเสนองาน (Presentation) • ช่วยในเรื่องของการนำเสนองานเป็นหลัก • อาจใส่ข้อมูลที่เป็นตัวอักษร รูปภาพตลอดจนเสียงต่างๆรวมถึงเทคนิคการนำเสนอให้มีความสวยงามและน่าสนใจได้ • การนำเสนองานบางครั้งนิยมเรียกว่า slideshow • ตัวอย่างโปรแกรม เช่น MicrosoftPowerPoint, SunStarOfficeImpress บทที่ 3 คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์สำหรับพีดีเอ (PDASoftware) • เป็นซอฟต์แวร์เฉพาะที่มีการใช้งานในพีดีเอ • อาจเป็นซอฟต์แวร์ที่เรียกว่า PIM (PersonalInformationManager) ซึ่งทำงานแบบพื้นฐานทั่วไป • ทำงานร่วมกันกับเครื่องพีซีได้โดยการถ่ายโอนข้อมูล (synchronization) • บางโปรแกรมที่เห็นบนพีซีอาจนำมาใช้บนพีดีเอได้ • ตัวอย่างโปรแกรม เช่น MicrosoftPocketOutlook, MicrosoftPocketExcel, QuickNotes บทที่ 3 คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์แบบกลุ่ม (Software Suite) • นำเอาซอฟต์แวร์หลายตัวมาจำหน่ายรวมกันเป็นกลุ่มเดียว • ทำให้การทำงานคล่องตัวและสะดวกเนื่องจากจัดกลุ่มซอฟต์แวร์ที่ทำงานใกล้เคียงกันไว้เป็นกลุ่มเดียว • ราคาจำหน่ายถูกกว่าการเลือกซื้อซอฟต์แวร์แต่ละตัวมาใช้ • ตัวอย่างโปรแกรม เช่น MicrosoftOffice, SunStarOffice, PladaoOffice บทที่ 3 คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์สำหรับจัดการโครงการ(Project management) • ใช้กับการวิเคราะห์และวางแผนโครงการเป็นหลัก • จัดการเกี่ยวกับกิจกรรมงาน (schedule) ติดตามงาน วิเคราะห์และหาต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆของโครงการได้ง่ายขึ้น • ตัวอย่างโปรแกรม เช่น MicrosoftProject, MacromediaSitespring บทที่ 3 คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์สำหรับงานบัญชี (Accounting) • บันทึกข้อมูลและแสดงรายงานทางการเงินต่าง ๆ • ออกรายงานงบกำไรขาดทุน งบดุล รวมถึงรายงานซื้อ-ขายได้ • ตัวอย่างโปรแกรม เช่น IntuitQuickBooks, PeachtreeCompleteAccounting บทที่ 3 คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์กลุ่มการใช้งานด้านกราฟิกและมัลติมีเดียซอฟต์แวร์กลุ่มการใช้งานด้านกราฟิกและมัลติมีเดีย • เพื่อช่วยสำหรับจัดการงานด้านกราฟิกและมัลติมีเดียให้ง่ายขึ้น • มีความสามารถเสมือนเป็นผู้ช่วยในการออกแบบงาน • มีความสามารถหลากหลาย เช่น ตกแต่งภาพ วาดรูป ปรับเสียง ตัดต่อภาพเคลื่อนไหวรวมถึงการสร้างและออกแบบพัฒนาเว็บไซต์ บทที่ 3 คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์กลุ่มการใช้งานด้านกราฟิกและมัลติมีเดียซอฟต์แวร์กลุ่มการใช้งานด้านกราฟิกและมัลติมีเดีย • อาจแบ่งซอฟต์แวร์กลุ่มนี้ออกเป็นประเภท ได้ดังนี้ • ซอฟต์แวร์สำหรับงานออกแบบ (CAD - Computer-aideddesign) • ซอฟต์แวร์สำหรับสิ่งพิมพ์ (Desktoppublishing) • ซอฟต์แวร์สำหรับตกแต่งภาพ (Paint/imageediting) • ซอฟต์แวร์สำหรับการตัดต่อวิดีโอและเสียง (Videoandaudioediting) • ซอฟต์แวร์สำหรับสร้างสื่อมัลติมีเดีย (Multimediaauthoring) • ซอฟต์แวร์สำหรับสร้างเว็บ (Webpageauthoring) บทที่ 3 คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์สำหรับงานออกแบบ(CAD - Computer-aided design) • ช่วยสำหรับการออกแบบแผนผัง การออกแบบและตกแต่งบ้าน รวมถึงการจัดองค์ประกอบอื่นๆ • เหมาะสำหรับงานด้านวิศวกรรมสถาปัตยกรรม รวมถึงงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีบางประเภท • ตัวอย่างโปรแกรม เช่น AutodeskAutoCAD, MicrosoftVisioProfessional บทที่ 3 คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์สำหรับสิ่งพิมพ์ (Desktop publishing) • สำหรับการจัดการกับสิ่งพิมพ์ เช่นหนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ โบร์ชัวร์แผ่นพับ โลโก้ • เหมาะกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสื่อสิ่งพิมพ์ เช่น สำนักพิมพ์ โรงพิมพ์หรือบริษัทออกแบบกราฟิก • ตัวอย่างโปรแกรม เช่น AdobeInDesign, AdobePageMaker, CorelVENTURA, QuarkXPress บทที่ 3 คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์สำหรับตกแต่งภาพ (Paint/image editing) • สำหรับการสร้างและจัดการรูปภาพ การจัดองค์ประกอบแสง-สีของภาพ รวมถึงการวาดภาพลายเส้น • เหมาะสำหรับออกแบบงานกราฟิก เช่น งานพาณิชย์ศิลป์ งานออกแบบและตกแต่งสินค้า • ตัวอย่างโปรแกรม เช่น AdobeIllustrator, AdobePhotoshop, CorelDRAW, MacromediaFreeHand บทที่ 3 คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์สำหรับการตัดต่อวิดีโอและเสียง(Video and audio editing) • ใช้จัดการกับข้อมูลเสียง เช่น ผสมเสียงแก้ไขเสียง สร้างเอฟเฟ็คต์หรือเสียงใหม่ๆ • เหมาะสำหรับใช้กับงานวงการตัดต่อภาพยนตร์ โทรทัศน์ สตูดิโอบันทึกเสียงหรืองานบนอินเทอร์เน็ตบางชนิด • ตัวอย่างโปรแกรม เช่น AdobePremiere, CakewalkSONAR, PinnacleStudioDV บทที่ 3 คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์สำหรับสร้างสื่อมัลติมีเดีย(Multimedia authoring) • ซอฟต์แวร์ที่เป็นการผนวกเอาสื่อหลายชนิด (multimedia) มาประกอบกันเพื่อให้การนำเสนองานมีความน่าสนใจ • อาจสร้างชิ้นงานประเภทสื่อปฎิสัมพันธ์กับผู้ใช้ (interractive) เช่น บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนได้ • ตัวอย่างโปรแกรมเช่น ToolbookInstructor, MacromediaAuthorware, MacromediaDirectorShockwaveStudio บทที่ 3 คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์สำหรับสร้างเว็บ (Web page authoring) • สามารถจัดการและออกแบบเว็บไซต์ได้โดยง่าย • สามารถแทรกข้อมูลประเภทเสียง ข้อความรูปภาพเคลื่อนไหว เพื่อนำเสนอบนเว็บไซต์ ได้เป็นอย่างดี • ตัวอย่างโปรแกรม เช่น AdobeGoLive, MacromediaDreamweaver, MacromediaFireworks, MacromediaFlash, MicrosoftFrontPage บทที่ 3 คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์การใช้งานบนเว็บและการสื่อสารซอฟต์แวร์การใช้งานบนเว็บและการสื่อสาร • เน้นเฉพาะการใช้งานด้านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต • ส่วนใหญ่ใช้สำหรับการติดต่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูล • เกิดขึ้นมาเป็นจำนวนมาก และพัฒนาออกมาหลายเวอร์ชั่น หลายโปรแกรม เนื่องจากการขยายตัวของการใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว บทที่ 3 คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์