580 likes | 925 Views
โศกนาฏกรรมชีวิตเมาแล้วขับ. นำเสนอโดย ศูนย์ประสานงานเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ จ.เชียงใหม่ โรงพยาบาลนครพิงค์เชียงใหม่. จั ก ร ริ น ท ร์ จุ ล ว ง ษ์ ประธานเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ จังหวัดเชียงใหม่. คนเมามีสามกลุ่ม. 3 . พูดไม่ได้เพราะสลบไปแล้ว. 2 . บอกว่าไม่เมา. 1 .บอกว่าตนเองเมาแล้ว.
E N D
โศกนาฏกรรมชีวิตเมาแล้วขับโศกนาฏกรรมชีวิตเมาแล้วขับ นำเสนอโดย ศูนย์ประสานงานเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ จ.เชียงใหม่ โรงพยาบาลนครพิงค์เชียงใหม่
จั ก ร ริ น ท ร์ จุ ล ว ง ษ์ ประธานเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ จังหวัดเชียงใหม่
คนเมามีสามกลุ่ม • 3. พูดไม่ได้เพราะสลบไปแล้ว 2. บอกว่าไม่เมา 1.บอกว่าตนเองเมาแล้ว
เหตุใดวัยรุ่น จึงกลายเป็น “นักดื่ม” หน้าใหม่ • คนรุ่นใหม่ นิยมดื่มสุรามากกว่าคนรุ่นก่อน • นักเรียน ม.ปลาย – อุดมศึกษา ประมาณ 1 ใน 3 ยอมรับว่าตนเอง “ดื่มสุรา” • นักเรียนชาย และหญิงระดับชั้นมัธยมปลาย และระดับ ปวช.ที่เคย • ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประมาณร้อยละ 50 เริ่มดื่มสุราเมื่ออายุต่ำ กว่า 15 ปี
การตายที่สัมพันธ์กับการบริโภคแอลกอฮอล์การตายที่สัมพันธ์กับการบริโภคแอลกอฮอล์ • การเสียชีวิตของประชากรโลก 5 ใน 100 คน เกิดจากสุรา • สุราเป็นสาเหตุของโรคและการบาดเจ็บ มากกว่า 60 ชนิด องค์การอนามัยโลก คาดประมาณว่า ร้อยละ 30 ของการตายจากมะเร็งหลอดอาหาร โรคตับ โรคชัก อุบัติเหตุ จราจร ฆาตกรรม และการบาดเจ็บโดยเจตนา มีสาเหตุจากการบริโภค เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
สถานการณ์ และความเป็นจริง • ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุกว่าครึ่งเป็นวัยหนุ่มสาว (15-35 ปี) • ร้อยละ 60 ของการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เกี่ยวข้องกับการเมา • อัตราการตรวจจับการเมาแล้วขับต่ำมาก • อัตราการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของคนไทยเพิ่มขึ้น • ยังไม่มีการรณรงค์อย่างต่อเนื่องให้สังคมตระหนักถึงความสูญเสีย จากอุบัติเหตุจราจร
หนูน้อยผู้โชคร้ายเหยื่อเมาแล้วขับหนูน้อยผู้โชคร้ายเหยื่อเมาแล้วขับ ตายนอกสนามรบ เพราะเมาแล้วขับ เละ หนูผิดอะไร
สิ้นเปลืองค่ารักษาพยาบาลจำนวนมหาศาลสิ้นเปลืองค่ารักษาพยาบาลจำนวนมหาศาล
ผู้ป่วยล้นออกมาเต็มระเบียงทางเดินผู้ป่วยล้นออกมาเต็มระเบียงทางเดิน
แฟชั่นเด็กรุ่นใหม่ใส่เหล็กที่ขาแฟชั่นเด็กรุ่นใหม่ใส่เหล็กที่ขา
เมาแล้วซิ่ง ชีวิตดับสูญ
2 หนูน้อยผู้โชคร้ายเหยื่อเมาแล้วขับ
หมอครับ... หายแล้ว ผมขอกลับไปวิ่งเล่นกับเพื่อนนะครับ
คุณยายต้องคอยดูแลหลานที่กระดูกคอหักจากอุบัติเหตุจราจรจากความเมา (ตลอดชีวิตของใครคนใดคนหนึ่ง)
ตายแล้ว...............ก็เผา........พ่อแม่เลี้ยงมาไม่ตายแล้ว...............ก็เผา........พ่อแม่เลี้ยงมาไม่
ไม่ตาย.......พิการ.......เหยื่อเมาแล้วขับไม่ตาย.......พิการ.......เหยื่อเมาแล้วขับ
ประเทศไหนติดท็อปไฟว์แชมป์นักดื่มแอลกอฮอล์โลกประเทศไหนติดท็อปไฟว์แชมป์นักดื่มแอลกอฮอล์โลก 1.โปรตุเกส 2. สาธารณรัฐไอซ์แลนด์ 3. บาฮาม่าส์ 4. สาธารณรัฐเชค 5. ไทย ปี 2533 ดื่มเฉลี่ย 7.46 ลิตรต่อคนต่อปี ปี 2548 เพิ่มขึ้นเป็น 40 ลิตรต่อคนต่อปี
แชมป์การดื่มประจำภาค ภาคอีสาน แชมป์ ภาคเหนือ รองแชมป์ ภาคกลาง + กรุงเทพฯอันดับ 3 ภาคใต้ อันดับ 4 อัตราตายและบาดเจ็บผู้ชายจะสูงกว่าผู้หญิง 4 เท่ารถจักรยานยนต์รถปิคอัพเป็นพาหนะที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดร้อยละ 80 เครื่องดื่มที่นิยมดื่มก่อนเสียชีวิตและบาดเจ็บเบียร์ช้าง, เบียร์ลีโอ, เบียร์สิงห์, แม่โขง, ฮันเดตไพร์เพอร์, จอห์นนีวอคส์เกอร์ฯลฯ
นักดื่มแอลกอฮอล์เป็นใครนักดื่มแอลกอฮอล์เป็นใคร ประชากรไทยปัจจุบัน 64 ล้านคน เป็นคนไทยที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 19 ล้านคน ผู้ชายมากกว่าผู้หญิง 3 เท่า ผู้ชาย 16 ล้านคน ผู้หญิง 3 ล้านคน แนวโน้มวัยรุ่นหญิงดื่มมากขึ้น
ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดระดับแอลกอฮอล์ในเลือด (มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์) 20 50 80 100 150 มากกว่า200 โอกาสเกิดอุบัติเหตุเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ดื่ม ใกล้เคียงกับคนไม่ดื่ม โอกาสเกิดอุบัติเหตุเพิ่มเป็น 2 เท่า โอกาสเกิดอุบัติเหตุเพิ่มเป็น 3เท่า โอกาสเกิดอุบัติเหตุเพิ่มเป็น 6 เท่า โอกาสเกิดอุบัติเหตุเพิ่มเป็น 40เท่า ไม่สามารถวัดได้ เนื่องจากควบคุมการทดลองไม่ได้ เปรียบเทียบระดับแอลกอฮอล์ในเลือดกับโอกาสเกิดอุบัติเหตุจราจร
มาตราการควบคุมและตรวจจับมาตราการควบคุมและตรวจจับ • การตรวจจับแอลกอฮอล์ในเลือด ปัจจุบันมีวิธีการตรวจหาระดับแอลกอฮอล์ในเลือดได้ 3 วิธี หลักๆคือ 1.ทางลมหายใจ โดยการเป่าลมออกจากปากเข้าไปในเครื่องตรวจตัวเลขที่อยู่บนเครื่องจะบอกระดับแอลกอฮอล์ในเลือดเป็นมิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์(mg%) • 2.ทางเลือดโดยตรง • 3.ทางปัสสาวะ
กำหนดแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ขับขี่ในประเทศต่างๆกำหนดแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ขับขี่ในประเทศต่างๆ ออสเตรเลีย 50 มิลลิกรัม% ไทย 50 มิลลิกรัม% ฟินแลนด์ 50 มิลลิกรัม% เนเธอร์แลนด์ 50 มิลลิกรัม% โปแลนด์ 30 มิลลิกรัม% ญี่ปุ่น 30 มิลลิกรัม% โรมาเนีย 0 มิลลิกรัม% สโลวะเกีย 0 มิลลิกรัม% ยูเครน0 มิลลิกรัม% มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) สำรวจความคิดเห็นประชาชน ร้อยละ 92.8เห็นด้วย ที่จะให้ตำรวจทำการจับกุมผู้ที่เมาแล้วขับอย่างจิงจัง ร้อยละ 3.3ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 3.9 ไม่มีความเห็น
ผลสรุปอุบัติเหตุทางถนน 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. 51-5 ม.ค. 52 • เกิดอุบัติเหตุรวม 3,824 ครั้ง น้อยกว่าปีที่แล้ว • ผู้เสียชีวิต367 คนน้อยกว่าปี 51(401 คน) • ส่วนผู้บาดเจ็บมีจำนวน 4,107 คน น้อยกว่าปี 51 • จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุรวมสูงสูด ได้แก่ เชียงราย 118 ครั้ง ( 354ครั้ง) • จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตรวมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 21 คน • จังหวัดที่ยังไม่มีผู้เสียชีวิตมี 7 จังหวัดได้แก่ ยโสธร สกลนคร นครพนม แม่ฮ่องสอน อุทัยธานี กระบี่ และระนอง • จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เพชรบูรณ์ 136 คน ทั้งนี้ ตัวเลขของผู้ประสบอุบัติเหตุและผู้เสียชีวิตในปีนี้ถือว่าน้อยลงกว่าปีที่แล้ว
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ 1.ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 27.64 เมา 2.เมาสุรา ร้อยละ 23.27 • ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ • ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน (อายุ 25 - 49 ปี) ร้อยละ 48.94 • ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือช่วงกลางคืน โดยเฉพาะช่วงเวลา 16.01-20.00 น. • ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 54.91 บนถนนทางหลวงแผ่นดิน ร้อยละ 38.54
สถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2552 ของเชียงใหม่ในรอบ 7วัน เสียชีวิตแล้ว 11 คน • สำหรับสถิติสะสมในรอบ 6 วันที่ผ่านมา • มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 83 ครั้ง ลดลงจากปีที่แล้ว 33 ครั้ง • มีผู้บาดเจ็บ 81 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 47 คน (11,908,863) • มีผู้เสียชีวิต 11 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 1 คน (53.2ล้านบาท) • ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดยังคงเป็นรถจักรยานยนต์ • สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่มาจากการเมาสุรา ขับรถเร็วเกินกำหนด และตัดหน้ากระชั้นชิด โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงใหม่ รายงานสถิติอุบัติเหตุ จ.เชียงใหม่
ความสูญเสียทางเศรษฐกิจความสูญเสียทางเศรษฐกิจ อุบัติเหตุทางถนนก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ เท่ากับ 232,855 ล้านบาท/ปี มูลค่าความสูญเสียต่อคน ... • ตาย = 5.32 ล้านบาท/คน • พิการ = 6.17 ล้านบาท/คน • บาดเจ็บสาหัส = 147,023 บาท/คน • บาดเจ็บเล็กน้อย = 34,761 บาท/คน ที่มา : สำนักอำนวยความปลอดภัย กรมทางหลวง ปี 2550
มีผู้ถูกดำเนินคดีตามมาตรการ 3 ม. 2 ข. 1 ร. รวม 61,052 ราย • ไม่มีใบขับขี่ 17,245 ราย • ไม่สวมหมวกนิรภัย 15,023 ราย
สาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดความสูญเสียจาก อุบัติเหตุทางถนนสูงสุด ขับขี่เร็ว เมาแล้วขับ ไม่สวมหมวกกันน็อก ตาย/บาดเจ็บสาหัส/พิการ/ถูกจับ รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด พบร้อยละ 80
มูลนิธิเมาไม่ขับ เครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับจังหวัดเชียงใหม่ศูนย์ประสานงานโรงพยาบาลนครพิงค์เชียงใหม่