1 / 19

คาบที่ 4 - โพลาโรกราฟีกระแสตรง

คาบที่ 4 - โพลาโรกราฟีกระแสตรง. การค้นพบเทคนิคโพลาโรกราฟีกระแสตรง ( Direct current polarography) เครื่องมือ - โพลาโรกราฟ โพลาโรแกรม และการตีความเพื่อใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์ ตัวอย่างการประยุกต์ใช้เทคนิค DCP ข้อจำกัดของเทคนิค DCP และแนวทางแก้ไข. การค้นพบเทคนิค.

fayola
Download Presentation

คาบที่ 4 - โพลาโรกราฟีกระแสตรง

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. คาบที่ 4 - โพลาโรกราฟีกระแสตรง • การค้นพบเทคนิคโพลาโรกราฟีกระแสตรง (Direct current polarography) • เครื่องมือ - โพลาโรกราฟ • โพลาโรแกรม และการตีความเพื่อใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์ • ตัวอย่างการประยุกต์ใช้เทคนิค DCP • ข้อจำกัดของเทคนิค DCP และแนวทางแก้ไข

  2. การค้นพบเทคนิค โพลาโรกราฟีกระแสตรง (Direct current polarography) ถูกค้นพบโดยบังเอิญโดย Miroslav Heyrovsky ชาวเชคโกสโลเวเกีย ขณะนั้นเขากำลังศึกษาผลของการโพลาไรซ์ขั้วปรอทหยดต่ออัตราการไหลของปรอทจากปลายหลอดแคปิลลารี (electrocapillary study) – จากการบันทึกกระแสไฟฟ้าเทียบกับศักย์ไฟฟ้าเขาสังเกตเห็นว่ามีกระแสไหลมากเป็นพิเศษที่บางค่าศักย์ไฟฟ้า โดยขึ้นกับชนิดของสารเคมีที่อยู่ในเซลล์ไฟฟ้า – ซึ่งต่อมาพบว่ากระแสดังกล่าวเกิดจากปฏิกิริยารีดักชันของสารบนขั้วปรอทหยด (dropping mercury electrode) – เขาเรียกเทคนิคการวิเคราะห์ที่ค้นพบใหม่นี้ว่า โพลาโรกราฟี Prof. Heyrovsky Electrocapillary curve

  3. เครื่องมือ - โพลาโรกราฟ เครื่องมือประกอบด้วย voltammetric cell ที่ใช้ขั้วปรอทหยดและขั้ว SCE มีการให้ศักย์ไฟฟ้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างเชิงเส้นตรง (linear ramp) ด้วยอัตราประมาณ 2- 5 mV/s และทำการวัดกระแสตลอดเวลา โพลาโรแกรมที่บันทึกได้ รูปแบบศักย์ไฟฟ้า (potential waveform) ของเทคนิค DCP ระบบเครื่องมือสำหรับเทคนิค DCP

  4. โพลาโรแกรม และการตีความเพื่อใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์ จากโพลาโรแกรมสามารถหา half wave potential ซึ่งมีค่าเฉพาะสำหรับปฏิกิริยาหนึ่งๆ จึงใช้วิเคราะห์เชิงคุณภาพได้ ส่วนการวิเคราะห์เชิงปริมาณจะใช้ limiting current ซึ่งสามารถวัดได้ดังรูป E1/2 – บอกถึงชนิดสาร Il - แปรผันโดยตรงกับความเข้มข้น โพลาโรแกรมที่ได้จากเทคนิค DCP

  5. ตัวอย่างการประยุกต์ใช้เทคนิค DCP การวิเคราะห์โลหะ สารอินทรีย์ เช่น ยา เป็นต้น โพลาโรแกรมของออกซิเจนและไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ โพลาโรแกรมของการวิเคราะห์โลหะ Detection limit ประมาณ 10-5M

  6. สมการแสดงตัวแปรที่มีผลต่อกระแสสมการแสดงตัวแปรที่มีผลต่อกระแส Ilkovic equation – สมการอิลโควิค แสดงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อกระแสที่วัดได้ Id = 708 n D1/2 C m2/3 t1/6 n = จำนวนอิเล็กตรอน, D = diffusion coefficient, C= ความเข้มข้น, m= อัตราการไหลของปรอท, t=เวลา กระแสการประจุ (charging current) จะเกี่ยวข้องกับตัวแปรต่างๆ ดังสมการ Ic = 0.00567 Ci (Ez-E) m2/3 t-1/3 Ci = ความจุไฟฟ้า, Ez = ศักย์ไฟฟ้าตอนที่ขั้วมี zero charge DCP มี background current สูง

  7. ข้อจำกัดของเทคนิค DCP และแนวทางแก้ไข Ic = K Ci (Ez-E) m2/3 t-1/3 ใช้ขั้วทำงานที่มีพื้นที่ผิวน้อย ใช้หยดปรอทขนาดเล็ก ขั้วทำงานขนาดเล็ก (ลด Ci) ใช้ scan rate ที่มีค่าน้อย (ลด Ez-E) ให้อัตราการไหลของปรอทช้าๆ (ลด m2/3) วัดกระแสตอนที่ปรอทโตเต็มที่ (t-1/3) ใช้รูปแบบศักย์ที่เป็นพัลส์ โพลาโรแกรมของ (a) DCP (b) Tast DCP Tast DCP หรือ sampled current DCP จะวัดกระแสตอนหยดปรอทโตเต็มที่ซึ่งมีกระแสประจุต่ำ

  8. คาบที่ 5 - พัลส์โพลาโรกราฟี/โวลแทมเมตรี • การให้ศักย์ไฟฟ้าในรูปพัลส์ • นอร์มอลพัลส์โพลาโรกราฟี (normal pulse polarography, NPP) • รูปแบบศักย์ และเครื่องมือ • ลักษณะโพลาโรแกรม • ดิฟเฟอเรนเชียลพัลส์โพลาโรกราฟี (differential pulse polarography, DPP) • รูปแบบศักย์ และเครื่องมือ • ลักษณะโพลาโรแกรม

  9. คาบที่ 5 - พัลส์โพลาโรกราฟี/โวลแทมเมตรี สแควร์เวฟโวลแทมเมตรี (square wave voltammetry, SWV) รูปแบบศักย์ และเครื่องมือ ลักษณะโวลแทมโมแกรม

  10. การให้ศักย์ไฟฟ้าในรูปพัลส์การให้ศักย์ไฟฟ้าในรูปพัลส์ จากการที่กระแส ic ลดลงเร็วกว่ากระแส if ถ้ามีการให้ศักย์ในรูปพัลส์ (pulse) และทำการวัดกระแสไฟฟ้าช่วงท้ายของพัลส์จะได้สัดส่วนของกระแส ifสูงขึ้น - ทำให้กระแสที่วัดได้สัมพันธ์กับสารที่สนใจวิเคราะห์มากขึ้น ซึ่งทำให้มีความไววิเคราะห์สูงขึ้น ทำการวัดกระแสที่ท้ายพัลส์ ซึ่งมีสัดส่วนของกระแสการประจุต่ำ และกระแสฟาราเดอิกสูง

  11. นอร์มอลพัลส์โพลาโรกราฟีนอร์มอลพัลส์โพลาโรกราฟี Timing: waiting period 2-4 s pulse width 5-100 ms current sampling 2-20 ms at nearly end of pulse Advantages: increase if proportion short period of pulse = less analyte consumption = very thin diffusion layer = better sensitivity 5-10 times more sensitive than DCP ให้ 1 พัลส์ต่อปรอท 1 หยด ช่วงเวลาของพัลส์สั้นมาก ให้ตอนปรอทโตเต็มที่ และวัดกระแสที่ท้ายพัลส์

  12. เครื่องมือและลักษณะโพลาโรแกรมของ NPP Timing: waiting period 2-4 s pulse width 5-100 ms current sampling 2-20 ms at nearly end of pulse Advantages: increase if proportion short period of pulse = less analyte consumption = very thin diffusion layer = better sensitivity 5-10 times more sensitive than DCP ให้ 1 พัลส์ต่อปรอท 1 หยด ช่วงเวลาของพัลส์สั้นมาก ให้ตอนปรอทโตเต็มที่ และวัดกระแสที่ท้ายพัลส์

  13. ดิฟเฟอเรนเชียลพัลส์โพลาโรกราฟีดิฟเฟอเรนเชียลพัลส์โพลาโรกราฟี Advantages: increase if proportion short period of pulse = less analyte consumption = very thin diffusion layer = better sensitivity 25-50 times more sensitive than DCP Detection limit about 10-8 M Peak polarogram/voltammogram: improve selectivity = better resolution between 2 adjacent peaks (Ep > 50 mV can be resolved) Resolution: W1/2 = 3.52 RT / nF Pulse amplitude & scan rate affect sensitivity and resolution i = i2 – i1 Potential waveform ของDPP

  14. เปรียบเทียบกับ DCP & NPP โพลาโรแกรมของ 10-3M Fe3+ใน 0.1 M HCl (a) DCP, (b) NPP และ (c) DPP DPP ให้ sensitivity สูงที่สุด • Block diagram ของเครื่องมือ

  15. ตัวอย่างการประยุกต์ใช้งานตัวอย่างการประยุกต์ใช้งาน การหาปริมาณโลหะหนักในตัวอย่างทางสิ่งแวดล้อม DPP ให้ sensitivity สูง, วิเคราะห์โลหะหลายชนิดได้พร้อมกัน

  16. สแควร์เวฟโวลแทมเมตรี • สแควร์เวฟโวลแทมเมตรี จะมีการให้ศักย์ไฟฟ้า ในรูปแบบพัลส์กระแสสลับรูปสี่เหลี่ยมที่เป็นส่วนผสมของ square wave กับ stair case ดังรูป และวัดกระแส 2 ครั้งที่ท้ายพัลส์ ทางด้าน forward และ reversepulse จะได้กระแสคนละด้าน คือ anodic และ cathodic นำกระแสทั้งสองมาหักลบกัน ดังสมการ • i = i1 – (- i2) = i1 + i2 Stair case Squarewave Squarewave waveform

  17. ลักษณะโวลแทมโมแกรม i = i1 – (- i2) = i1 + i2 • ในกรณีที่สารสามารถเกิดปฏิกิริยาผันกลับได้จะได้กระแสรวมสูงขึ้นดังรูป ซึ่งช่วยเพิ่มความไววิเคราะห์ เทคนิคนี้ มีความไวมากกว่า DP ประมาณ 3-4 เท่า และที่สำคัญสามารถสแกนศักย์ได้รวดเร็วมาก (ใช้เวลาไม่กี่วินาที) • จะได้โวลแทมโมแกรมที่มีลักษณะเป็นพีค

  18. การประยุกต์ใช้เทคนิคสแควร์เวฟโวลแทมเมตรีการประยุกต์ใช้เทคนิคสแควร์เวฟโวลแทมเมตรี • การวิเคราะห์โลหะ • การวิเคราะห์สารอินทรีย์

  19. เครื่องมือโวลแทมเมตรีเครื่องมือโวลแทมเมตรี

More Related