660 likes | 1.26k Views
รูปแบบการวิจัย Research Design. การวิจัย.
E N D
การวิจัย • เป็นการค้นคว้า อย่างเป็นระบบ มีเหตุมีผล เพื่อผลิตความรู้ใหม่ ซึ่งความรู้ใหม่ อาจเป็นความรู้ใหม่ เชิงทฤษฏี หรือการประยุกต์ปฏิบัติก็ได้ แต่ต้องอยู่บนรากฐาน ของความถูกต้อง โดยต้องพยายาม หลีกเลี่ยง ความแปรปรวน และอคติต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น โดยใช้รูปแบบการวิจัย วิธีการวิจัย และสถิติที่เหมาะสม
ปัญหา วัตถุประสงค์ และประเภทของงานวิจัย
ปัญหาการวิจัย (Research Question) เป็นขั้นตอนสำคัญเบื้องต้นของการวิจัย คือ การระบุสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้วิจัยสนใจในหัวข้อนั้นๆ ลักษณะของปัญหาการวิจัยที่ดี • เป็นปัญหาที่เฉพาะในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง • เข้าใจง่าย • น่าสนใจ • กำหนดขอบเขตของปัญหาชัดเจน • อธิบายความหมายของข้อความต่างๆ
วัตถุประสงค์ของการวิจัย (Research Objective) ถือเป็นหัวใจสำคัญของการวิจัย มีความชัดเจน และเจาะจงมากกว่าปัญหาการวิจัย โดยจะอธิบายโครงสร้าง แนวทางในการพัฒนาทฤษฎี แนวทางที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่จะศึกษา เงื่อนไข ขอบเขต ฯลฯ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เป็นสิ่งแสดงให้เห็นว่า ผู้วิจัยจะทำอะไรตลอดจนได้รับผลอย่างไร โดยทั่วไปมีวัตถุประสงค์หลักอยู่ 3 ประการ นั่นคือ • เพื่อการแก้ปัญหา (Problem-Solving) • เพื่อสร้างทฤษฎี (Theory-Developing Research) • เพื่อพิสูจน์ทฤษฎี (Theory-Testing Research)
การกำหนดวัตถุประสงค์ของการวิจัย และกรอบแนวคิด การกำหนดกรอบแนวคิดเชิงทฤษฎี (Theoretical Framework) นับเป็นขั้นตอนที่สำคัญและมีความสัมพันธ์กับวัตถุประสงค์การวิจัย เพื่อแสดงแนวความคิดที่อยู่เบื้องหลังการทำวิจัยในการค้นหาข้อเท็จจริง และเชื่อมโยงประเด็นของปัญหาที่ทำการวิจัยเข้ากับทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
ลักษณะของวัตถุประสงค์ของการวิจัยลักษณะของวัตถุประสงค์ของการวิจัย • เป็นรายละเอียดของหัวข้อเรื่องที่ศึกษาที่ผู้วิจัยต้องการทราบ • กำหนดทิศทาง เงื่อนไขเฉพาะเจาะจง เน้นถึงผลที่จะได้รับในเชิงปฏิบัติจริง • ใช้เป็นเครื่องมือติดตามผลการวิจัยว่า ครบถ้วนตรงตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้หรือไม่ • งานวิจัยโดยทั่วไปจะมีการกำหนดวัตถุประสงค์เพียง 2-3 ประเด็น เริ่มจากประเด็นหลักไปสู่ประเด็นที่สำคัญรองลงมา • มีความสัมพันธ์และสอดคล้องกับชื่อเรื่องการวิจัย
รูปแบบการเขียนวัตถุประสงค์งานวิจัยทางสังคมศาสตร์รูปแบบการเขียนวัตถุประสงค์งานวิจัยทางสังคมศาสตร์ ตัวอย่าง หัวข้อ “การประเมินความพึงพอใจในการให้บริการด้านต่างๆของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และแนวทางแก้ไข” 1) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยแม่โจ้ในการรับบริการด้านต่างๆของมหาวิทยาลัย 2) เพื่อให้ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงการให้บริการด้านต่างๆของมหาวิทยาลัยแม่โจ้
ตัวอย่างการวิจัยเชิงทดลองตัวอย่างการวิจัยเชิงทดลอง • การลดของเสียในกระบวนการผลิตกุนเชียง • เพื่อลดของเสียที่เกิดจากการผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องอัดไส้กุนเชียงระบบไฮดรอลิค • การใช้มันสำปะหลังทดแทนข้าวโพดในอาหารสุกรแม่พันธุ์ • เพื่อศึกษาผลของมันสำปะหลังต่อประสิทธิภาพการผลิตของสุกรแม่พันธุ์ • เพื่อหาระดับปริมาณการใช้มันสำปะหลังที่เหมาะสมในสูตรอาหารสุกรแม่พันธุ์
จุดมุ่งหมายของการวิจัยจุดมุ่งหมายของการวิจัย • ระบุความต้องการหรือสิ่งที่อยากจะทราบจากการวิจัย • มีความชัดเจน • มีความสมบูรณ์ ทำอะไร ในแง่มุมใด • อยู่ในขอบเขตของประเด็นปัญหาอย่างครบถ้วน • มีลักษณะตามแนว SMART คือ 5.1 Sensible จำเป็น-สำคัญ 5.2 Measurable ตรวจสอบ-วัดได้ 5.3 Attainable บรรลุ-ทำได้ 5.4 Reasonable เหมาะสม-สมเหตุสมผล 5.5 Time ใช้เวลาให้พอเหมาะ
ความจำเป็นที่ต้องทำวิจัยความจำเป็นที่ต้องทำวิจัย • เพราะเหตุขัดข้อง (หาทางแก้ไขให้เป็นปกติ) เช่น ปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ ปัญหาการฉ้อราษฎร์บังหลวง
ความจำเป็นที่ต้องทำวิจัย (ต่อ) • เพื่อหาทางป้องกัน (มิให้เกิดขึ้นอีก) เช่น ปัญหายาเสพติด ปัญหาโสเภณี
ความจำเป็นที่ต้องทำวิจัย (ต่อ) • ต้องการพัฒนา เช่น เพิ่มความพึงพอใจในการรับบริการ เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต
ประโยชน์ของการวิจัย • ช่วยให้ได้ความรู้ใหม่ ทั้งทางทฤษฎีและปฏิบัติ • ช่วยพิสูจน์หรือตรวจสอบความถูกต้องของกฎเกณฑ์ หลักการ และทฤษฎีต่างๆ • ช่วยให้เข้าใจสถานการณ์ ปรากฏการณ์ และพฤติกรรมต่างๆ • ช่วยพยากรณ์ผลภายหน้าของสถานการณ์ ปรากฏการณ์ และพฤติกรรมต่างๆอย่างถูกต้อง • ช่วยแก้ปัญหาให้ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ • ช่วยการวินิจฉัย ตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม • ช่วยปรับปรุงการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น • ช่วยปรับปรุงพัฒนาสภาพความเป็นอยู่และวิถีดำรงชีวิตให้ดีขึ้น
ประเภทของงานวิจัย (ต่อ)
ประเภทของงานวิจัย (ต่อ)
ประเภทของงานวิจัย (ต่อ)
ประเภทของงานวิจัย (ต่อ)
ประเภทของงานวิจัย (ต่อ)
งานวิจัยเชิงคุณภาพ • การวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) เป็นการวิจัยที่แสวงหาความจริงในสภาพที่เป็นอยู่โดยธรรมชาติ (Naturalistic inquiry) ซึ่งเป็นการสอบสวน มองภาพรวมทุกมิติ (Holistic perspective) ด้วยตัวผู้วิจัยเอง เพื่อหาความสัมพันธ์ของปรากฏการณ์ที่สนใจกับสภาพแวดล้อมนั้น โดยให้ความสำคัญกับข้อมูลที่เป็นความรู้สึกนึกคิด คุณค่าของมนุษย์ และความหมายที่มนุษย์ให้ต่อสิ่งแวดล้อมต่างๆรอบตัว เน้นการวิเคราะห์ข้อมูลโดยการตีความสร้างข้อสรุปแบบอุปนัย (Inductive analysis)
การวิจัยเชิงคุณภาพ • การวิจัยเชิงคุณภาพ (เชิงคุณลักษณะ) • เครื่องมือคือนักวิจัย ถามเฉพาะคนที่รู้เรื่องดี • การสังเกต (Observation) • Participant Observation • Non-Participant Observation • Focus Group • In-depth Interview • Life history collection
การวิจัยเชิงคุณภาพ • การสังเกต- Structured Observation- Unstructured Observation • สัมภาษณ์ทางลึก (In-depth Interview) คำถามปลายเปิด (Open ended questions) • การสนทนากลุ่ม (Focus group) ผู้ให้ข้อมูลเป็นผู้มีความรู้ (Key Informants) มีนักวิจัย ผู้จดบันทึก ใช้เทปบันทึก ถอดเทปสรุปวิเคราะห์ข้อมูล • การศึกษาเฉพาะราย (Case study, Life history collection)
การวิจัยเชิงปริมาณ • การวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) เป็นวิธีค้นหาความรู้และความจริง โดยเน้นที่ข้อมูลเชิงตัวเลข การวิจัยเชิงปริมาณจะพยายามออกแบบวิธีการวิจัยให้มีการควบคุมตัวแปรที่ศึกษาต้องจัดเตรียมเครื่องมือรวบรวมข้อมูลให้มีคุณภาพ จัดกระทำสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องให้เป็นมาตรฐาน และใช้วิธีการทางสถิติช่วยวิเคราะห์และประมวลข้อสรุปเพื่อให้เกิดความคลาดเคลื่อน (Error) น้อยที่สุด
การวิจัยเชิงปริมาณ • ต้องมีกลุ่มตัวอย่างจำนวนที่กำหนด มีเครื่องมือ เช่น แบบสอบถามใช้หลักวิชาสถิติวิเคราะห์ จำแนกตามวิธีการวิจัย แบ่งเป็น Observational Study และ Experimental study
ตัวแปรอิสระ ตัวแปรตาม ตัวแปรอิสระ (Independent Variables) ตัวแปรตาม (Dependent Variables) เป็นต้นเหตุ เป็นปัจจัยเสี่ยง เป็นตัวกำหนด มีอิทธิพล
ตัวแปรอิสระ ตัวแปรตาม • โดยที่ตัวแปรอิสระเป็นตัวแปรที่อาจเป็นต้นเหตุหรือปัจจัยเสี่ยง (Risk Factor) หรือเป็นตัวที่กำหนด (Determines) หรือเป็นตัวที่มีอิทธิพล (Influences) ต่อตัวแปรตาม
ตัวแปรอิสระ ตัวแปรตาม • เช่น ถ้าตัวแปรอิสระ คือการสูบบุหรี่ ตัวแปรตาม คือโรคมะเร็งปอด • ถ้าตัวแปรอิสระ คือระดับการศึกษา ตัวแปรตาม คือระดับรายได้ หรือระดับตำแหน่งหน้าที่ • ถ้าตัวแปรอิสระ คือระดับโปรตีนในอาหาร ตัวแปรตาม คือการเจริญเติบโต เป็นต้น • ถ้าตัวแปรอิสระ คือระดับสายเลือดของโคนม ตัวแปรตาม คือปริมาณน้ำนม เป็นต้น
ความแตกต่างระหว่างงานวิจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณความแตกต่างระหว่างงานวิจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ
กระบวนการวิจัย เก็บข้อมูล ประมวลข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล ตีความผลการวิเคราะห์ เขียนรายงาน เผยแพร่งานวิจัย กำหนดปัญหา ทบทวนวรรณกรรม กำหนดกรอบทฤษฎี กำหนดตัวแปร กำหนดวัตถุประสงค์ และสมมติฐาน ออกแบบวิจัย ประชากร กลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือ
หลักการออกแบบแผนการวิจัยหลักการออกแบบแผนการวิจัย เพื่อให้ได้แผนการวิจัยที่1. เหมาะสมกับปัญหาและวัตถุประสงค์ของการวิจัย 2. ให้ได้ผลตรงตามข้อเท็จจริง มีความน่าเชื่อถือ หลักการออกแบบการวิจัย 3 หลักการ คือ1. ความเชื่อมั่น (Reliability)2. ความตรง (Validity)3. การควบคุมตัวแปรแทรกซ้อน (Control Extraneous Variables)
กลุ่มตัวอย่าง และการสุ่มตัวอย่างในการวิจัย ประชากร (ความจริงของข้อสงสัย ปัญหา) ค่าพารามิเตอร์ ค่าสถิติ X, S, S2 กลุ่มตัวอย่าง
กลุ่มตัวอย่าง และการสุ่มตัวอย่างในการวิจัย กลุ่มตัวอย่างที่เป็นตัวแทนที่ดีของประชากร คือ กลุ่มตัวอย่างที่ผู้วิจัยสุ่มจากประชากรโดยใช้หลักความน่าจะเป็น ด้วยวิธีการที่เหมาะสม และมีขนาดตัวอย่างเพียงพอ วิธีสุ่มตัวอย่าง (Sampling Method) 1. สุ่มตัวอย่างโดยใช้หลักความน่าจะเป็น (Probability Sampling) 2. สุ่มตัวอย่างโดยไม่ใช้หลักความน่าจะเป็น (Non-Probability Sampling)
กลุ่มตัวอย่าง และการสุ่มตัวอย่างในการวิจัย • วิธีสุ่มตัวอย่าง (Sampling Method) • สุ่มตัวอย่างโดยใช้หลักความน่าจะเป็น (Probability Sampling) • การสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) • การสุ่มตัวอย่างแบบมีระบบ (Systematic Random Sampling) • การสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น (Stratified Random Sampling) • การสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster Sampling) • การสุ่มตัวอย่างหลายขั้นตอน (Multi-stage Random Sampling)
กลุ่มตัวอย่าง และการสุ่มตัวอย่างในการวิจัย • วิธีสุ่มตัวอย่าง (Sampling Method) • 2. สุ่มตัวอย่างโดยไม่ใช้หลักความน่าจะเป็น (Non-Probability Sampling) • การสุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญ หรือตามความสะดวก (Accidental Sampling or Convenience Sampling) • การสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) • การสุ่มตัวอย่างแบบโควตา (Quota Sampling)
กลุ่มตัวอย่าง และการสุ่มตัวอย่างในการวิจัย ขนาดตัวอย่าง ขึ้นกับ ลักษณะของประชากร อำนาจการทดสอบ ประเภทการวิจัย ระดับนัยสำคัญ ประเภทสมมติฐาน ขนาดของอิทธิพล สถิติวิเคราะห์ข้อมูล ทรัพยากรสนับสนุน
การใช้สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูลการใช้สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล - สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive statistics) - สถิติอ้างอิง (Inferential statistics)การประมาณค่า - การทดสอบสมมติฐาน สถิติพาราเมตริก - สถิตินอนพาราเมตริก Univariate- Multivariate Data Analysis
การใช้สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูลการใช้สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล การเลือกใช้สถิติในการวิจัย ขึ้นอยู่กับ • วัตถุประสงค์ และแบบของการวิจัย • มาตรวัดของข้อมูล (Nominal, Ordinal, Interval, Ratio Scale) • ลักษณะการแจกแจง (Normal distribution, Binomial distribution, ฯลฯ)