1 / 18

ปัญหาการวิจัย

สมรรถนะที่เป็นจริงของผู้สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ( ปวส. ) สาขาวิชา เครื่องกล สาขางานเทคนิคยานยนต์ตามความคิดเห็นของศูนย์บริการรถยนต์ ใน เขตพื้นที่ภาคตะวันออก ACTUAL COMPETENCIES OF THE DIPLOMA GRADUATES IN AUTO – MECHANIC TECHNOLOGY AS PERCEIVED

Download Presentation

ปัญหาการวิจัย

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. สมรรถนะที่เป็นจริงของผู้สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สาขาวิชาเครื่องกล สาขางานเทคนิคยานยนต์ตามความคิดเห็นของศูนย์บริการรถยนต์ ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก ACTUAL COMPETENCIES OF THE DIPLOMA GRADUATES IN AUTO – MECHANIC TECHNOLOGY AS PERCEIVED BY AUTOMOBILE CENTERS IN THE EASTERN REGION ผู้วิจัย : นายณัฐกานต์ เนตรเหมือนทิพย์

  2. ปัญหาการวิจัย ปัจจุบันสถานประกอบการศูนย์บริการรถยนต์มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อตอบสนองต่อผู้ใช้รถยนต์ที่มีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศ จากรายงานของสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เผยยอดขายรวมตลาดรถยนต์ปี 2550 รวม 631,250 คัน ซึ่งระบบการทำงานของรถยนต์มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงเกือบทุกส่วนของระบบกลไกต่างๆส่งผลให้สมรรถนะของผู้สำเร็จการศึกษาตามความต้องการของศูนย์บริการรถยนต์เปลี่ยนไป ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมกับสถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาแห่งประเทศไทย พบว่า การผลิตกำลังคนในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงสาขาช่างอุตสาหกรรม แม้ว่าภาพรวมจะมีปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการของตลาดแรงงาน แต่ก็ยังมีปัญหาการขาดแคลนช่างเทคนิคสาขาช่างอุตสาหกรรมเฉพาะที่มีฝีมือ ประสบการณ์และคุณภาพตามที่ต้องการด้วยการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็วทำให้มีผลกระทบต่อหลักสูตร อุปกรณ์ เครื่องมือโดยเฉพาะอย่างยิ่งขาดข้อมูลที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับความต้องการในด้านคุณภาพ

  3. ปัญหาการวิจัย จากการศึกษาของคณะกรรมการดำเนินการวิจัยสถาบันการอาชีวศึกษาภาคตะวันออก 2 (อาชีวศึกษาจังหวัด ฉะเชิงเทรา ชลบุรี: 2548) พบว่า แนวโน้มความต้องการกำลังคนของสถานประกอบการในเขตชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก มีความต้องการกำลังคนเพิ่มมากขึ้น โดยภาพรวมแล้วสถานประกอบการในเขตชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกมีความต้องการกำลังคนที่จบการศึกษาในระดับ ปวส. มากที่สุด ผลการวิเคราะห์ความต้องการกำลังคนสาขาช่างอุตสาหกรรมของสถานประกอบการในเขตชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก จำแนกตามสาขางาน พบว่า จำนวนคนที่ต้องการในสาขางานช่างยนต์จากปีพ.ศ. 2547 มีร้อยละ 10.68 มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 14.09 ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI :2547) พบว่า ผู้สำเร็จการศึกษาในระดับ ปวส. มีความพร้อมที่จะเข้าทำงานสูงสุด ในการพัฒนากำลังคนให้สามารถทำงานได้จึงเป็นหน้าที่ของการจัดการศึกษาของชาติ

  4. ปัญหาการวิจัย จากสภาพและปัญหาดังกล่าว ผู้วิจัยในฐานะที่เป็นอาจารย์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการเรียนการสอนในสาขาวิชาเครื่องกล สาขางานเทคนิคยานยนต์ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) จึงสนใจที่จะศึกษาสมรรถนะที่เป็นจริงของผู้สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)สาขาวิชาเครื่องกล สาขางานเทคนิคยานยนต์ตามความคิดเห็นของศูนย์บริการรถยนต์ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก เพื่อนำผลการวิจัยที่ได้ไปปรับปรุงพัฒนาหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอนให้สามารถผลิตบุคลากรให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานและสถานประกอบการต่อไป

  5. วัตถุประสงค์ • เพื่อศึกษาสมรรถนะที่เป็นจริงของผู้สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)สาขาวิชาเครื่องกล สาขางานเทคนิคยานยนต์ตามความคิดเห็นของศูนย์บริการรถยนต์ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก ใน 3 ด้าน คือ (1) ด้านความรู้ (2) ด้านทักษะ และ (3) ด้านคุณลักษณะ • 2. เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของศูนย์บริการรถยนต์ในเขตพื้นที่ภาค • ตะวันออกต่อสมรรถนะที่เป็นจริงของผู้สำเร็จการศึกษาระดับ • ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สาขาวิชาเครื่องกล สาขางาน • เทคนิคยานยนต์จำแนกตามขนาดของศูนย์บริการรถยนต์

  6. กรอบแนวคิดในการวิจัย ในการศึกษาครั้งนี้ผู้วิจัยได้ใช้กรอบความคิดของ Scott B. Parry (อ้างใน สุกัญญา รัศมีธรรมโชติ 2004 : 5) ซึ่งสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของหลักสูต ระดับ ปวส. พ.ศ. 2546 ของกระทรวงศึกษาธิการที่ระบุไว้ว่า ผู้สำเร็จการศึกษา ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาวิชาเครื่องกล สาขางานเทคนิคยาน ยนต์ ต้องเป็นผู้มีสมรรถนะใน 3 ด้าน 1. ด้านความรู้ 2. ด้านทักษะ 3. ด้านคุณลักษณะ

  7. วิธีการวิจัย • ประชากรได้แก่ ผู้จัดการฝ่ายบริการหรือหัวหน้าฝ่ายบริการของศูนย์บริการ โตโยต้าอีซูซุนิสสัน มิตซูบิชิ ฮอนด้าเบนซ์ บี.เอ็ม.ดับเบิ้ลยู เชฟโรเล็ตฟอร์ดมาสด้าวอลโว่ และรถยนต์ในเครือยนตรกิจ ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก จำนวน 101 แห่ง ๆ ละ 1 คน รวม 101 คน • กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้จัดการฝ่ายบริการหรือหัวหน้าฝ่ายบริการที่เป็นผู้ตอบแบบสอบถามในนามของ ศูนย์บริการ โตโยต้าอีซูซุนิสสัน มิตซูบิชิ ฮอนด้าเบนซ์ บี.เอ็ม.ดับเบิ้ลยู เชฟโรเล็ตฟอร์ดมาสด้าวอลโว่ และรถยนต์ในเครือยนตรกิจ ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก จำนวน80 แห่งๆละ1 คนกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่าง โดยใช้ตารางสำเร็จรูปหาขนาดของกลุ่มตัวอย่างของ Krejcie และ Morgan (1970 : 608) และใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling)

  8. วิธีการวิจัย ตัวแปรที่ศึกษา ตัวแปรต้น คือ ขนาดของศูนย์บริการรถยนต์ แบ่งออกเป็น 3 ขนาด ดังนี้ 1. ศูนย์บริการรถยนต์ขนาดเล็ก 2. ศูนย์บริการรถยนต์ขนาดกลาง 3. ศูนย์บริการรถยนต์ขนาดใหญ่ ตัวแปรตาม คือ สมรรถนะที่เป็นจริงของผู้สำเร็จการศึกษา ใน 3 ด้าน ดังนี้ 1. ด้านความรู้ 2. ด้านทักษะ 3. ด้านคุณลักษณะ

  9. วิธีการวิจัย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นแบบสอบถาม โดยแบ่งออกเป็น 3 ตอน ตอนที่ 1 สอบถาม ข้อมูลทั่วไปของศูนย์บริการรถยนต์และผู้ตอบแบบสอบถามเป็นแบบเลือกตอบ(Checklist) ประกอบด้วยคำถามจำนวน 7 ข้อ ตอนที่ 2 สอบถามระดับสมรรถนะที่เป็นจริงของผู้สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สาขาวิชาเครื่องกล สาขางานเทคนิคยานยนต์ ในศูนย์บริการรถยนต์ เป็นข้อคำถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scales) 5 ระดับ จำนวน 70 ข้อ คุณภาพของเครื่องมือ ที่ใช้ในการวิจัย แบบสอบถามมีค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) อยู่ที่ 0.89 ตอนที่3 ถามข้อเสนอแนะของศูนย์บริการรถยนต์ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก

  10. วิธีการวิจัย การนำแบบสอบถามไปทดลองและการรวบรวมข้อมูล โดยนำไปทดลองใช้ (try-out) กับศูนย์บริการรถยนต์ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 30 แห่ง 30 คน เพื่อหาค่าความเชื่อมั่นด้วยวิธีของCronbach. (1984 : 161) ที่เรียกว่า สัมประสิทธิ์อัลฟา(alpha-coefficient) ได้ค่าความเชื่อมั่นด้านความรู้ เท่ากับ 0.95 ด้านทักษะ เท่ากับ 0.95 ด้านคุณลักษณะ เท่ากับ 0.94 และโดยรวมเท่ากับ 0.87 การเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยจัดส่งแบบสอบถามให้กับสถานประกอบการในเขตภาคตะวันออกด้วยตนเองและทางไปรษณีย์ และผู้วิจัยดำเนินการติดตามและขอรับแบบสอบถามกลับด้วยตนเอง

  11. วิธีการวิจัย สถิติในการวิจัย วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของศูนย์บริการรถยนต์และผู้ตอบแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ความถี่และร้อยละ วิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับสมรรถนะที่เป็นจริงของผู้สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สาขาวิชาเครื่องกล สาขางานเทคนิคยานยนต์ ตามความคิดเห็นของศูนย์บริการรถยนต์ในภาคตะวันออก วิเคราะห์โดยใช้ค่าเฉลี่ย(x) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S) โดยทำเป็นรายข้อ รายด้าน และรวมทุกด้าน เปรียบเทียบความคิดเห็นของศูนย์บริการรถยนต์ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกต่อสมรรถนะที่เป็นจริงของผู้สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สาขาวิชาเครื่องกล สาขางานเทคนิคยานยนต์ ตามขนาดของศูนย์บริการรถยนต์ โดยใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว (One-Way ANOVA) วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากแบบสอบถามปลายเปิด โดยใช้ค่าความถี่

  12. ตารางแสดงผล ตาราง แสดงค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระดับ และอันดับของสมรรถนะที่เป็นจริงของ ผู้สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)สาขาวิชาเครื่องกล สาขางานเทคนิคยานยนต์ตามความคิดเห็นของศูนย์บริการรถยนต์ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกในภาพรวมและรายด้าน

  13. ตารางแสดงผล (ต่อ) ตารางแสดง การเปรียบเทียบความคิดเห็นของศูนย์บริการรถยนต์ต่อสมรรถนะที่เป็นจริงของผู้สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สาขาวิชา เครื่องกล สาขางานเทคนิคยานยนต์ ในภาพรวมและรายด้านจำแนกตามขนาดของศูนย์บริการรถยนต์

  14. สรุปผลการวิจัย ข้อที่1 ศูนย์บริการรถยนต์ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกมีความคิดเห็นว่าระดับสมรรถนะที่เป็นจริงของผู้สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)สาขาวิชาเครื่องกล สาขางานเทคนิคยานยนต์ในศูนย์บริการรถยนต์ภาพรวม อยู่ในระดับปานกลาง (= 3.39)เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน โดยเรียงอันดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย 3 อันดับแรก คือข้อ 3 ด้านคุณลักษณะ อยู่ในระดับมาก (= 3.57) อันดับ 2 คือ ข้อ 1 ด้านความรู้ อยู่ในระดับปานกลาง (= 3.35) และ อันดับสุดท้าย คือ ข้อ 2 ด้านทักษะ อยู่ในระดับปานกลาง (= 3.25) ตามลำดับ ข้อที่ 2 ศูนย์บริการรถยนต์ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก ที่ปฏิบัติงานในศูนย์บริการขนาด ใหญ่ กลาง เล็ก มีความคิดเห็นต่อสมรรถนะที่เป็นจริงของผู้สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)สาขาวิชาเครื่องกล สาขางานเทคนิคยานยนต์ ในภาพรวมแตกต่างกัน ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานที่ได้ตั้งไว้เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ศูนย์บริการรถยนต์ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก ที่ปฏิบัติงานในศูนย์บริการขนาด ใหญ่ กลาง เล็ก มีความคิดเห็นต่อสมรรถนะที่เป็นจริง ด้านความรู้ ไม่แตกต่างกัน ซึ่งไม่สอดคล้องกับสมมติฐานที่ได้ตั้งไว้โดยด้านทักษะแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 และ ด้านคุณลักษณะ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.01ซึ่งสอดคล้องกับ สมมติฐานที่ตั้งไว้

  15. อภิปรายผล วัตถุประสงค์ข้อที่ 1 เพื่อศึกษาสมรรถนะที่เป็นจริงของผู้สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)สาขาวิชาเครื่องกล สาขางานเทคนิคยานยนต์ตามความคิดเห็นของศูนย์บริการรถยนต์ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก ใน 3 ด้าน คือ (1) ด้านความรู้ (2) ด้านทักษะ และ (3) ด้านคุณลักษณะ ผลการวิจัย พบว่า สมรรถนะที่เป็นจริงของผู้สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)สาขาวิชาเครื่องกล สาขางานเทคนิคยานยนต์ตามความคิดเห็นของศูนย์บริการรถยนต์ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก ในภาพรวม อยู่ในระดับปานกลาง ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่าการทำงานในศูนย์บริการนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดพนักงานต้องมีเป็นอันดับแรกคือ ความซื่อสัตย์ เพราะเกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบในเรื่องของการซ่อมบำรุงและ การเปลี่ยนชิ้นส่วนของรถยนต์ และต้องมีความสุภาพ อ่อนน้อม ถ่อมตนและมีเจตคติที่ดีต่ออาชีพเพราะศูนย์บริการรถยนต์เป็นงานบริการที่ต้องติดต่อกับลูกค้าที่มารับบริการซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคุณลักษณะ ส่วนความรู้ ความสามารถด้านทักษะมีความสำคัญเช่นกันแต่อยู่ในลำดับรองลงมา เพราะสามารถศึกษา ค้นคว้า ฝึกอบรมเพิ่มเติมได้ตลอดเวลา

  16. อภิปรายผล วัตถุประสงค์ข้อที่ 2 เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของศูนย์บริการรถยนต์ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกต่อสมรรถนะที่เป็นจริงของผู้สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สาขาวิชาเครื่องกล สาขางานเทคนิคยานยนต์จำแนกตามขนาดของศูนย์บริการรถยนต์ผลการวิจัยพบว่า ศูนย์บริการรถยนต์ที่มีขนาดแตกต่างกันมีความคิดเห็นต่อสมรรถนะของผู้สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สาขาวิชาเครื่องกล สาขางานเทคนิคยานยนต์ในด้านความรู้ไม่แตกต่างกัน ซึ่งไม่สอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่าในสมรรถนะความรู้สามารถที่จะศึกษาเพิ่มเติมได้ในอนาคตทั้งจากตัวศูนย์บริการเองและจากสื่อการเรียนการสอนที่มีอยู่ทั่วไป เช่นในเรื่องของ มีความรู้เกี่ยวกับการเขียนรายงานและโครงการปฏิบัติงาน มีความรู้ เกี่ยวกับระบบโครงสร้าง ส่วนประกอบ และหลักการทำงานของระบบฉีดเชื้อเพลิงเครื่องยนต์แก๊สโซลีนเป็นอย่างดี มีความรู้เกี่ยวกับการวางแผน การมอบหมายงาน การจัดสถานที่และการควบคุมงานซ่อมรถยนต์ มีความรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติ และการทำงานของน้ำยาสารทำความเย็นของระบบปรับอากาศรถยนต์อย่างดี มีความรู้เกี่ยวกับหลักการทำงานโครงสร้างส่วนประกอบของเครื่องยนต์ที่ใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิง มีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายจราจร เครื่องหมายจราจร และวิธีขับขี่รถยนต์อย่างปลอดภัยบนท้อง มีความรู้เกี่ยวกับการใช้งานและการบำรุงรักษาเครื่องมือในงานซ่อมรถยนต์เป็นอย่างดี ส่วนด้านทักษะแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้

  17. ข้อเสนอแนะ 1. ผู้บริหารสถานศึกษา ประเภทอาชีวศึกษา ควรนำข้อมูลที่เป็นผลจากการวิจัย เป็นแนวทางในการพัฒนาและปรับปรุงการเรียนการสอนเพื่อเพิ่มสมรรถนะของผู้สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สาขาวิชาเครื่องกล สาขางานเทคนิคยานยนต์ในส่วนที่สถานประกอบการมีความคิดเห็นต่อสมรรถนะที่อยู่ในระดับปานกลางให้มากยิ่งขึ้น 2. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาสามารถนำผลจากการวิจัย ไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาหลักสูตรระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง(ปวส) สาขาวิชาเครื่องกลสาขางานยานยนต์ เพื่อพัฒนาหลักสูตรให้ทันสมัยและตรงกับสมรรถนะและตอบสนองความต้องการของสถานประกอบการ 3. สถานศึกษาประเภทอาชีวศึกษาสามารถนำผลของการวิจัยไปใช้ในการพัฒนาสมรรถนะด้านทักษะการบริการรถยนต์ในสาขาเครื่องกลให้มากขึ้น โดยจัดให้มีการปฏิบัติงานจริงและจัดชั่วโมงการฝึกงานมากขึ้นเพื่อผู้จบการศึกษาจะได้มีความชำนาญมากยิ่งขึ้น

  18. จบการนำเสนอ ผลงานวิจัยในชั้นเรียน ขอบคุณครับ

More Related