1 / 47

ความไม่สมบูรณ์ของนิติกรรม โมฆะ และโมฆียกรรม

ความไม่สมบูรณ์ของนิติกรรม โมฆะ และโมฆียกรรม. ศ.ดร.กำชัย จงจักรพันธ์. ความไม่สมบูรณ์ของนิติกรรม อาจหมายถึง - นิติกรรมไม่เกิดขึ้น - นิติกรรมเกิดขึ้นแต่ตกเป็นโมฆะ - นิติกรรมเกิดขึ้นแต่ตกเป็นโมฆียะ. 1. 3. 2. โมฆะ. สมบูรณ์. โมฆียะ อยู่จุดไหน ?. ความหมายของโมฆะ.

Download Presentation

ความไม่สมบูรณ์ของนิติกรรม โมฆะ และโมฆียกรรม

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. ความไม่สมบูรณ์ของนิติกรรมโมฆะ และโมฆียกรรม ศ.ดร.กำชัย จงจักรพันธ์

  2. ความไม่สมบูรณ์ของนิติกรรมความไม่สมบูรณ์ของนิติกรรม อาจหมายถึง - นิติกรรมไม่เกิดขึ้น - นิติกรรมเกิดขึ้นแต่ตกเป็นโมฆะ - นิติกรรมเกิดขึ้นแต่ตกเป็นโมฆียะ

  3. 1. 3. 2. โมฆะ สมบูรณ์ โมฆียะ อยู่จุดไหน ?

  4. ความหมายของโมฆะ โมฆะ คือความเสียเปล่า ไม่ก่อให้เกิดผลในทางกฎหมาย ไม่ก่อให้เกิดความเคลื่อนไหวในสิทธิ

  5. ความหมายของโมฆียะ โมฆียะ คือสมบูรณ์ ใช้ได้จนกว่าจะถูกบอกล้าง

  6. 1. 3. 2. สมบูรณ์ = ใช้ได้ มีผลตามกฎหมายโดยเด็ดขาด ไม่มีใครสามารถมาทำให้มันใช้ไม่ได้ โมฆะ= เสียเปล่า ใช้ไม่ได้ ไม่มีใครสามารถมาทำให้มันใช้ได้ (ม. 172 โมฆะกรรมนั้นไม่อาจให้สัตยาบันได้

  7. โมฆียะ โมฆะ สมบูรณ์ โมฆียะ = สมบูรณ์ ใช้ได้จนกว่าจะถูกบอกล้าง (โดยตัวมันเองจึงอยู่ข้างสมบูรณ์ แต่เป็นการสมบูรณ์ที่ไม่เด็ดขาด)

  8. โมฆะ สมบูรณ์ โมฆียะ บอกล้าง ถ้าถูกบอกล้าง โมฆียะกรรมนั้นก็จะตกเป็นโมฆะ (ม. 176 โมฆียะกรรมเมื่อบอกล้างแล้ว ให้ถือว่าเป็นโมฆะมาแต่เริ่มแรก)

  9. โมฆะ สมบูรณ์ โมฆียะ สัตยาบัน ถ้าถูกให้สัตยาบัน โมฆียะกรรมนั้นก็จะสมบูรณ์โดยเด็ดขาด (ม. 177 ถ้าบุคคลผู้มีสิทธิบอกล้าง.. ได้ให้สัตยาบันแก่โมฆียกรรม ให้ถือว่าการนั้นอันสมบูรณ์มาแต่เริ่มแรก..)

  10. เหตุที่ทำให้นิติกรรมตกเป็นโมฆะเหตุที่ทำให้นิติกรรมตกเป็นโมฆะ • วัตถุประสงค์ของนิติกรรม (ม.150-151) • แบบของนิติกรรม (ม.152) • เจตนาซ่อมเร้น (ม.154) • เจตนาลวง (ม.155 วรรคแรก) • เจตนาอำพราง (ม.155 วรรคสอง) • สำคัญผิดในสาระสำคัญแห่งนิติกรรม (ม.156)

  11. เหตุที่ทำให้นิติกรรมตกเป็นโมฆะเหตุที่ทำให้นิติกรรมตกเป็นโมฆะ 7. เงื่อนไข (ม.187 – 190) 8. เมื่อบอกล้างโมฆียกรรม (ม.176) 9. โมฆะตามกฎหมายลักษณะอื่น (เช่น ม.922 วรรคสอง)

  12. เหตุที่ทำให้นิติกรรมตกเป็นโมฆียะเหตุที่ทำให้นิติกรรมตกเป็นโมฆียะ • ความสามารถ (ม.153) • การแสดงเจตนาโดยสำคัญผิดในคุณสมบัติของบุคคลหรือทรัพย์ (ม.157) • การแสดงเจตนาโดยถูกกลฉ้อแล (ม. 159) • การแสดงเจตนาโดยถูกข่มขู่ (ม. 164) • โมฆียะ ตามกฎหมายลักษณะอื่นหรือกฎหมายอื่น

  13. ผลของนิติกรรมที่เป็นโมฆะ (ม. 172-173-174) 1. โมฆะกรรมไม่สามารถให้สัตยาบันได้ (ม. 172 วรรคแรก) 2. โมฆะกรรม ผู้มีส่วนได้เสียยกขึ้นกล่าวอ้างได้ (ม. 172 วรรคแรก) 3. โมฆะกรรม การคืนทรัพย์ตามหลักลาภมิควรได้ (ม. 172 วรรคสอง) 4. นิติกรรมที่เป็นโมฆะแต่เพียงบางส่วน อาจแยกส่วนที่สมบูรณ์ออกได้ หากพึง สันนิษฐานได้โดยพฤติการณ์แห่งกรณีว่าคู่กรณีเจตนาจะให้ส่วนที่ไม่เป็นโมฆะนั้นแยกออกจากส่วนที่เป็นโมฆะได้ (ม. 173)

  14. ผลของนิติกรรมที่ตกเป็นโมฆะ (ม. 172-173-174) 5. โมฆะกรรมตามนิติกรรมชนิดหนึ่งแต่อาจสมบูรณ์เป็นนิติกรรมอื่น หากพึงสันนิษฐานได้โดยพฤติการณ์แห่งกรณีว่า คู่กรณีเจตนาจะให้ส่วนที่ไม่เป็นโมฆะนั้นแยกออกจากส่วนที่เป็นโมฆะได้ (ม. 174) 6. โมฆะกรรม ไม่มีบททั่วไปคุ้มครองบุคคลภายนอก มีแต่บทเฉพาะ (ต่างจากโมฆียกรรมที่มีบททั่วไปคุ้มครองบุคคลภายนอก มาตรา 1329)

  15. ผลของนิติกรรมที่เป็นโมฆะ (ม. 172-173-174) 1.โมฆะกรรมไม่สามารถให้สัตยาบันได้ ตายแล้วไม่สามารถฟื้นได้

  16. อยากฟื้น ก็ต้องเกิดใหม่ คำสนอง คำเสนอ

  17. ผลของนิติกรรมที่เป็นโมฆะ (ม. 172-173-174) 2.โมฆะกรรม ผู้มีส่วนได้เสียยกขึ้นกล่าวอ้างได้ ผู้มีส่วนได้เสียคือคนที่จะได้หรือจะเสียถ้านิติกรรมตกเป็นโมฆะ ก็กล่าวอ้างได้ อาทิ คู่สัญญา หรือบุคคลภายนอก ยกเว้น มีกฎหมายห้ามกล่าวอ้าง เช่น บุคคลที่แสดงเจตนาโดยสำคัญผิดด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง (ม. 158)

  18. ผลของนิติกรรมที่เป็นโมฆะ (ม. 172-173-174) 3.โมฆะกรรม การกลับคืนสู่ฐานะเดิมตามหลักลาภมิควรได้ (ม. 172 วรรคสอง) ลาภมิควรได้ คือการได้ทรัพย์มาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ (ม. 406) ลาภลอย ?? ลาภมิควรได้ วิชาในชั้นปีที่ 2 (ละเมิด จัดการงานนอกสั่ง ลาภมิควรได้)

  19. ผลของนิติกรรมที่เป็นโมฆะ (ม. 172-173-174) หลัก ลาภมิควรได้ โดยสรุป ให้คืนทรัพย์แก่กัน แต่บางกรณีก็คืนได้ บางกรณีก็คืนไม่ได้ กรณีคืนไม่ได้ อาทิ -โมฆะ เพราะวัตถุประสงค์ขัดต่อศีลธรรม ส่งมอบทรัพย์แล้ว ไม่ต้องคืนให้แก่กัน

  20. ผลของนิติกรรมที่เป็นโมฆะ (ม. 172-173-174) กรณีโมฆียกรรม ที่ถูกบอกล้างทำให้ตกเป็นโมฆะ กฎหมาย มาตรา 176 วรรคแรก บัญญัติไว้ว่า “.. ให้ผู้เป็นคู่กรณีกลับคืนสู่ฐานะเดิม ถ้าเป็นการพ้นวิสัยจะให้กลับคืนเช่นนั้นได้ก็ให้ได้รับค่าเสียหายชดใช้ให้แทน”

  21. ผลของนิติกรรมที่เป็นโมฆะ (ม. 172-173-174) ทำไม ผลของนิติกรรมที่เป็นโมฆะแต่แรก กับนิติกรรมที่เป็นโมฆียะ แต่ถูกบอกล้างทำให้ตกเป็นโมฆะ จึงแตกต่างกัน โมฆะ vs โมฆียะ ถูกบอกล้าง = ตกเป็นโมฆะ

  22. โมฆะ = เสียเปล่า ใช้ไม่ได้ ไม่มีใครสามารถมาทำให้มันใช้ได้ (ม. 172 โมฆะกรรมนั้นไม่อาจให้สัตยาบันได้ สมบูรณ์ = ใช้ได้ มีผลตามกฎหมายโดยเด็ดขาด ไม่มีใครสามารถมาทำให้มันใช้ไม่ได้

  23. โมฆียะ โมฆะ สมบูรณ์ โมฆียะ = สมบูรณ์ ใช้ได้จนกว่าจะถูกบอกล้าง (โดยตัวมันเองจึงอยู่ข้างสมบูรณ์ แต่เป็นการสมบูรณ์ที่ไม่เด็ดขาด)

  24. โมฆะ สมบูรณ์ โมฆียะ บอกล้าง ถ้าถูกบอกล้าง โมฆียะกรรมนั้นก็จะตกเป็นโมฆะ (ม. 176 โมฆียะกรรมเมื่อบอกล้างแล้ว ให้ถือว่าเป็นโมฆะมาแต่เริ่มแรก)

  25. ผลของนิติกรรมที่เป็นโมฆะ (ม. 172-173-174) 4.นิติกรรมที่เป็นโมฆะแต่เพียงบางส่วน อาจแยกส่วนที่สมบูรณ์ออกได้ หากพึงสันนิษฐานได้โดยพฤติการณ์แห่งกรณีว่าคู่กรณีเจตนาจะให้ส่วนที่ไม่เป็นโมฆะนั้นแยกออกจากส่วนที่เป็นโมฆะได้ (ม. 173) ตัวอย่าง คำพิพากษาฎีกาที่ 4338/2531 (ให้นักศึกษา ฝึกฝนเปิดหาคำพิพากษาศาลฎีกา และหาอ่านดูเป็นการบ้าน)

  26. ผลของนิติกรรมที่เป็นโมฆะ (ม. 172-173-174) 5.โมฆะกรรมตามนิติกรรมชนิดหนึ่งแต่อาจสมบูรณ์เป็นนิติกรรมอื่น หากพึงสันนิษฐานได้โดยพฤติการณ์แห่งกรณีว่า คู่กรณีเจตนาจะให้ส่วนที่ไม่เป็นโมฆะนั้นแยกออกจากส่วนที่เป็นโมฆะได้ (ม. 174) พินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมือง --- พินัยกรรมแบบเขียนเองทั้งฉบับ (โปรด อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 980/2499)

  27. ผลของนิติกรรมที่เป็นโมฆะ (ม. 172-173-174) 6. โมฆะกรรม ไม่มีบททั่วไปคุ้มครองบุคคลภายนอก (ต่างจากโมฆียกรรมที่มีบททั่วไปคุ้มครองบุคคลภายนอก) โมฆียกรรม – ม. 1329 โมฆะกรรม - ไม่มี

  28. พักสายตาครับ

  29. ผลของนิติกรรมที่เป็นโมฆียะ (ม. 175-181), 1. บอกล้างหรือให้สัตยาบันได้ (ม. 175, 177) 2. ใครเป็นผู้มีสิทธิบอกล้างหรือให้สัตยาบัน (ม. 175) 3. บอกล้างหรือให้สัตยาบันขณะใด (ม.175, 179) 4. วิธีการบอกล้างหรือให้สัตยาบัน (ม. 178) 5. ผลของการบอกล้าง ตกเป็นโมฆะมาแต่เริ่มแรกและกลับคืนสู่ฐานะเดิม (ม. 176)

  30. ผลของนิติกรรมที่เป็นโมฆียะ (ม. 175-181) 6. การให้สัตยาบันโดยปริยาย (ม. 180) 7. ระยะเวลาในการบอกล้าง (ม. 181) 8. โมฆียกรรม มีบททั่วไปคุ้มครองบุคคลภายนอก (ม. 1329)

  31. ผลของนิติกรรมที่เป็นโมฆียะ (ม. 175-181) 1. บอกล้างหรือให้สัตยาบันได้ (ม. 175, 177) โมฆะ เสียเปล่าแต่เริ่มแรก บอกล้าง บอกล้าง คือ การแสดงเจตนาทำลายโมฆียกรรมให้ตกเป็นโมฆะ (ม. 176 วรรคแรก)

  32. สมบูรณ์โดยเด็ดขาด สัตยาบัน สัตยาบันคือการแสดงเจนารับรองให้โมฆียกรรมสมบูรณ์โดยเด็ดขาด หรือการแสดงเจนาสละสิทธิที่จะบอกล้างโมฆียะกรรม มีผลทำให้นิติกรรมสมบูรณ์มาแต่เริ่มแรก (ม. 177)

  33. การบอกล้าง/การให้สัตยาบัน เป็นนิติกรรมฝ่ายเดียว ไม่มีแบบด้วย บอกล้าง สัตยาบัน

  34. ผลของนิติกรรมที่เป็นโมฆียะ (ม. 175-181) 2.ใครเป็นผู้มีสิทธิบอกล้างหรือให้สัตยาบัน (ม. 175) 1. ผู้หย่อนความสามารถ (ผู้เยาว์, คนไร้ความสามารถ, คนวิกลจริต,คนเสมือนไร้ความสามารถ) 2. ผู้ปกป้องดูแลผู้หย่อนความสามารถ (ผู้แทนโดยชอบธรรม, ผู้อนุบาล, ผู้พิทักษ์) 3. ผู้แสดงเจตนาโดยบกพร่องทั้งหลาย (สำคัญผิด, กลฉ้อฉล, ข่มขู่) 4. ทายาทของบุคคลตาม 1 และ 3

  35. ผลของนิติกรรมที่เป็นโมฆียะ (ม. 175-181) 3.บอกล้างหรือให้สัตยาบันขณะใด (ม.175, 179) 1. ผู้หย่อนความสามารถ (ผู้เยาว์, คนไร้ความสามารถ, คนวิกลจริต,คนเสมือนไร้ความสามารถ) ผู้หย่อนความสามารถ – สามารถบอกล้างหรือให้สัตยาบันได้เมื่อพ้นจากสภาพหรือเหตุที่ทำให้นิติกรรมตกเป็นโมฆียะและได้รู้เรื่องโมฆียกรรมแล้ว หรือเมื่อได้รับความยินยอมจากผู้ปกป้องดูแล

  36. 2. ผู้ปกป้องดูแลผู้หย่อนความสามารถ (ผู้แทนโดยชอบธรรม, ผู้อนุบาล ผู้พิทักษ์) ผู้ปกป้องดูแลผู้หย่อนความสามารถ –สามารถบอกล้างหรือให้สัตยาบันได้เมื่อรู้เรื่องโมฆียกรรมแล้ว

  37. 3. ผู้แสดงเจตนาโดยบกพร่องทั้งหลาย (สำคัญผิด, กลฉ้อฉล, ข่มขู่) ผู้แสดงเจตนาโดยบกพร่องทั้งหลาย –สามารถบอกล้างหรือให้สัตยาบันได้เมื่อพ้นจากสภาพหรือเหตุที่ทำให้นิติกรรมตกเป็นโมฆียะและได้รู้เรื่องโมฆียกรรมแล้ว

  38. 4. ทายาทของบุคคลตาม 1 และ 3 ทายาทของบุคคลตาม 1 และ 3 –สามารถบอกล้างหรือให้สัตยาบันได้เมื่อผู้ทำโมฆียกรรมได้ถึงแก่ความตายก่อนที่จะมีการบอกล้างหรือให้สัตยาบัน

  39. ผลของนิติกรรมที่เป็นโมฆียะ (ม. 175-181) 4.วิธีการบอกล้างหรือให้สัตยาบัน (ม. 178) การบอกล้างหรือการให้สัตยาบันแก่โมฆียะกรรม –เป็นนิติกรรมฝ่ายเดียวที่ต้องมีผู้รับซึ่งการแสดงเจตนา

  40. ผลของนิติกรรมที่เป็นโมฆียะ (ม. 175-181) 5.โมฆียะกรรมเมื่อถูกบอกล้าง จะตกเป็นโมฆะมาแต่เริ่มแรกและให้ผู้เป็นคู่กรณีกลับคืนสู่ฐานะเดิม ถ้าพ้นวิสัยจะให้กลับคืนเช่นนั้นก็ให้ได้รับค่าเสียหายชดใช้ให้แทน (ม. 176) เหตุใด โมฆะที่มาจากการบอกล้างโมฆียะกรรม จึงมีการกลับคืนสู่ฐานะเดิม ไม่เหมือนโมฆะกรรมมาแต่เริ่มแรก

  41. ผลของนิติกรรมที่เป็นโมฆียะ (ม. 175-181) 6.การให้สัตยาบันโดยปริยาย (ม. 180) 1. ได้มีการชำระหนี้ทั้งหมดหรือบางส่วน 2. ได้มีการเรียกให้ชำระหนี้นั้น 3. ได้มีการแปลงหนี้ใหม่ 4. ได้มีการให้ประกันเพื่อหนี้นั้น 5. ได้มีการโอนสิทธิหรือความรับผิดทั้งหมดหรือแต่บางส่วน 6. ได้มีกากระทำอย่างอื่นอันแสดงได้ว่าเป็นการให้สัตยาบัน

  42. ทำไม ไม่มีการบอกล้างโดยปริยาย ?

  43. ผลของนิติกรรมที่เป็นโมฆียะ (ม. 175-181) 7.ระยะเวลาในการบอกล้าง (ม. 181) โมฆียกรรมจะบอกล้างมิได้ เมื่อพ้นเวลาหนึ่งปีนับแต่เวลาที่อาจให้สัตยาบันได้ หรือเมื่อพ้นเวลาสิบปีนับแต่ได้ทำโมฆียกรรมนั้น ทำไมไม่มีบัญญัติเวลาในการให้สัตยาบัน ?

  44. ผลของนิติกรรมที่เป็นโมฆียะ (ม. 175-181) 8. โมฆียกรรม มีบททั่วไปคุ้มครองบุคคลภายนอก (ม. 1329) ความหมายของสุจริต ความหมายของเสียค่าตอบแทน

More Related