1 / 13

ใ บไม้

ใ บไม้. ใ บไม้. ใบไม้ คือส่วนที่เรียกว่า โฟ ลิ เอจ เป็นส่วนที่สร้างอาหารโดยกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ใบไม้มีขนาดและรูปร่างแตกต่างกันหลายแบบแบ่งเป็น 2 แบบใหญ่ๆ ตามลักษณะที่แตกต่างกัน. ก ายวิภาคของใบ.

binh
Download Presentation

ใ บไม้

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. ใบไม้

  2. ใบไม้ ใบไม้คือส่วนที่เรียกว่า โฟลิเอจ เป็นส่วนที่สร้างอาหารโดยกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ใบไม้มีขนาดและรูปร่างแตกต่างกันหลายแบบแบ่งเป็น 2 แบบใหญ่ๆ ตามลักษณะที่แตกต่างกัน

  3. กายวิภาคของใบ ลักษณะของใบ พืชดอกที่สมบูรณ์นั้นประกอบไปด้วย ก้านใบ, แผ่นใบ, และ หูใบ ก้านใบนั้นจะเป็นส่วนต่อมาจากลำต้นใบบริเวณที่เรียกว่า "ง่ามกิ่งหรือซอกใบ" แต่ก็ใช่ว่าพืชทุกชนิดจะมีใบตามลักษณะที่กล่าวมาข้างต้น ในพืชบางชนิดคู่หูใบจะไม่ปรากฏเด่นชัดหรือไม่มีเลย ก้านใบอาจไม่มีหรือแผ่นใบอาจไม่เป็นแผ่นแบน ความหลากหลายที่มีมากมายนี้ถูกแสดงในกายวิภาคของใบจากชนิดหนึ่งถึงอีกชนิดหนึ่งที่ถูกเสนอในรายละเอียดภายใต้รูปร่างลักษณะของใบ

  4. ใบนั้นถือว่าเป็นอวัยวะหนึ่งซึ่งทั่วไปประกอบไปด้วย:ใบนั้นถือว่าเป็นอวัยวะหนึ่งซึ่งทั่วไปประกอบไปด้วย: 1.เนื้อเยื่อชั้นผิว ที่จะปกคลุมผิวด้านบน (2) และด้านล่าง (5) 2.ในพาเรงคิมา ภายในที่เรียกว่ามีโซฟิลล์ (3:แพลิเซด มีโซฟิลล์) (4:สปองจี มีโซฟิลล์) 3.ข้อของเส้นใบ (10:ท่อลำเลียง) (8:ไซเล็ม) (9:โฟลเอ็ม) 4.ปากใบ (6) 5.เซลล์คุม (7) 6.ผิวเคลือบคิวทิน (1) ที่ปกคลุมเนื้อเยื่อชั้นผิวอีกที

  5. ประเภทของใบไม้ ใบเดี่ยว ใบเดี่ยว (simple leaf) หมายถึงใบที่มีเพียงใบเดียวติดกับก้านที่แตกออกจากกิ่งหรือลำต้น เช่น มะม่วงกล้วย แต่ยังมีใบเดี่ยวบางชนิดที่ขอบใบเว้าเข้าไปมากทำให้ดูคล้ายใบประกอบ เช่น มะละกอมันสำปะหลัง ใบประกอบ ใบประกอบ (compound leaves) หมายถึงใบที่มีใบย่อยตั้งแต่ 2 ใบอยู่ติดกับก้านใบ 1 ก้าน แต่ละใบของใบประกอบ เรียก ใบย่อย (leaflet หรือ pina) ก้านใบย่อย เรียก เพทิโอลูล (petioluleหรือ petiolet) ส่วนก้านใบใหญ่ที่อยู่ระหว่างช่วงก้านใบย่อย เรียก ราคิส (rachis) ใบประกอบแยกย่อยได้ 2 แบบ

  6. ใบประกอบแยกย่อยได้ 2 แบบ ใบประกอบแบบฝ่ามือหรือแบบนิ้วมือ (palmately compound leaves) ใบย่อยแต่ละใบจะแยกออกจากก้านใบที่จุดรวมเดียวกัน โดยจะมีใบย่อยตั้งแต่ 2 ใบเช่น มะขามเทศ ใบย่อย 3 ใบเช่น ยางพาราถั่ว ใบย่อย 4 ใบเช่น ใบนุ่นหนวดปลาหมึก ใบประกอบแบบขนนก (pinnately compound leaves)ใบย่อยแต่ละใบแยกออกจากก้าน 2 ข้างของแกนกลาง คล้ายขนนก ถ้าปลายสุดของใบจะเป็นใบย่อยเพียงใบเดียวเรียก แบบขนนกคี่ (odd pinnate) เช่น กุหลาบอัญชันก้ามปู ถ้าสุดปลายใบมี 2 ใบ เรียกแบบขนนกคู่ (even pinnate) เช่น มะขามขี้เหล็กแคบ้าน

  7. ใบขอบ (Margins, edge) 1.angulate: เป็นมุม 2.entire: เรียบ 3.ciliate: เป็นขนครุย 4.crenate: หยักมน 5.crenulate: หยักมนถี่ 6.dentate: หยักซี่ฟัน 7.bidentate: หยักซี่ฟัน 2 ชั้น8.denticulate: หยักซี่ฟันถี่

  8. ปลายใบ 1.acuminate: เรียวแหลม 2.acute: แหลม 3.cuspidate: เป็นติ่งแหลม 4.emarginate: เว้าตื้น 5.mucronate: เป็นติ่งหนาม 6.mucronulate: เป็นติ่งหนามสั้น 7.obcordate: รูปหัวใจกลับ 8.obtuse: ป้าน, มน 9.truncate: ปลายตัด

  9. โคนใบ 1.acuminate: เรียวแหลม 2.acute: แหลม 3.auriculate: รูปติ่งหู, รูปติ่งใบ 4.cordate: รูปหัวใจ 5.cuneate: รูปลิ่ม 6.hastate: รูปเงี่ยงใบหอก 7.oblique: เบี้ยว 8.reniform: รูปไต 9.rounded: กลม 10.sagittate: รูปเงี่ยงลูกศร 11.truncate: ปลายตัด

  10. ผิวใบ

  11. จัดทำโดย นางสาวสุชานันท์ ดีมี

More Related