1 / 68

พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการพ.ศ. ๒๕๔๐

พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการพ.ศ. ๒๕๔๐. โดย. นางสาวพรทิพย์ รัตนพันธ์ เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 6 ว. ความรู้ทั่วไป. - ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อ 10 กันยายน 2540. - มีผลใช้บังคับ เมื่อ 9 ธันวาคม 2540. - ประเทศสวีเดน เป็นประเทศแรกที่มีกฎหมายลักษณะนี้.

ashton-wong
Download Presentation

พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการพ.ศ. ๒๕๔๐

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการพ.ศ. ๒๕๔๐ โดย นางสาวพรทิพย์ รัตนพันธ์เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 6 ว

  2. ความรู้ทั่วไป - ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อ 10 กันยายน 2540 - มีผลใช้บังคับ เมื่อ 9 ธันวาคม 2540 -ประเทศสวีเดน เป็นประเทศแรกที่มีกฎหมายลักษณะนี้ - ประเทศไทย เป็นประเทศแรกในเอเชียที่มีกฎหมายนี้ รวม กฎหมาย 2 ฉบับ เข้ามาในกฎหมายฉบับนี้ (กม.เกี่ยวกับข้อมูลข่าวสาร และ ข้อมูลส่วนบุคคล)

  3. เจตนารมณ์แห่ง พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ ให้ประชาชนมีโอกาสอย่างกว้างขวางในการ รับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินการ ต่างๆของรัฐ เพื่อให้สามารถแสดงความคิดเห็นและใช้สิทธิทางการเมืองได้อย่างถูกต้อง ให้เกิดความโปร่งใสในระบบราชการ เพื่อส่งเสริมให้การบริหารงานภาครัฐเป็นไป อย่างมีประสิทธิภาพ และโปร่งใส

  4. ดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์ปัญหาคอร์รัปชั่นโลกในปี 2550 พ.ศ. จำนวนประเทศ อันดับของไทย คะแนน • 254491 61 3.2 • 2545 102 64 3.2 • 2546 133 70 3.3 • 2547 146 643.6 • 2548 159 59 3.8 • 2549 163 633.6 • 2550 174 68 3.3 • หมายเหตุ : ประเทศที่มีการคอร์รัปชั่นมากที่สุด คือ ไฮติ อิรัก และ พม่า • ได้คะแนน 1.9 คะแนน ไทย เป็นอันดับ 9 จาก 21 ประเทศในเอเซีย • ที่มา : องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ

  5. 1. กฎหมายที่เกี่ยวข้อง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯ พ.ศ.2542 พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่พ.ศ.2539

  6. “สิทธิได้รู้” ตามรัฐธรรมนูญ

  7. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550ส่วนที่ 10 ว่าด้วย สิทธิในข้อมูลข่าวสารและการร้องเรียน • มาตรา 56“บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับทราบข้อมูล หรือข่าวสารสาธารณะในครอบครองของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐฯ...... เว้นแต่การเปิดเผยข้อมูลหรือข่าวสารนั้น จะกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยของประชาชน หรือ ส่วนได้เสียอันพึงได้รับความคุ้มครองของบุคคลอื่นหรือ เป็นข้อมูลส่วนบุคคล ..”

  8. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550(ต่อ) • มาตรา 57 บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับข้อมูล คำชี้แจงและเหตุผลจากหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ ฯลฯ ........ก่อนการอนุญาตหรือดำเนินโครงการหรือกิจกรรมใดที่อาจมีผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัย ...............และมีสิทธิแสดงความคิดเห็นของตนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปประกอบการพิจารณาในเรื่องดังกล่าว

  9. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550(ต่อ) • การวางแผนพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ การเมืองและวัฒนธรรม การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ การวางผังเมือง การกำหนดเขตการใช้ประโยชน์ในที่ดินและการออกกฎที่อาจมีผลกระทบต่อส่วนได้เสียสำคัญของประชาชน ให้รัฐจัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างทั่วถึงก่อนดำเนินการ

  10. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550(ต่อ) มาตรา 60 • บุคคลย่อมมีสิทธิที่จะฟ้องหน่วยราชการ หน่วยงาน ของรัฐ รัฐวิสาหกิจ ราชการส่วนท้องถิ่น หรือ องค์กร อื่นของรัฐที่เป็นนิติบุคคล ให้รับผิดเนื่องจากการากระทำ หรือ การละเว้นการกระทำของข้าราชการ พนักงาน หรือ ลูกจ้างของหน่วยงานนั้น

  11. รธน. แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 ม. 35 บัญญัติว่า “สิทธิของบุคคลในครอบครัว เกียรติยศ ชื่อเสียง หรือความเป็นอยู่ส่วนตัว ย่อมได้รับความคุ้มครอง การกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลาย ซึ่งข้อความหรือภาพไม่ว่าด้วยวิธีใด ไปยังสาธารณชน อันเป็นการละเมิดหรือกระทบถึงสิทธิของบุคคลในครอบครัว เกียรติยศ ชื่อเสียง หรือความเป็นอยู่ส่วนตัว จะกระทำมิได้ เว้นแต่กรณีที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับความคุ้มครองจากการแสวงประโยชน์โดยมิชอบจากข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน ......

  12. สิทธิตามกฎหมายของประชาชนสิทธิตามกฎหมายของประชาชน มาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารฯ ประชาชน :มีสิทธิตรวจดู หน่วยงานของรัฐ :มีหน้าที่ 1. นำพิมพ์ลงในราชกิจจานุเบกษา 2. จัดพิมพ์และเผยแพร่ 1. สิทธิได้รู้ (Right to Know) 1.1 สิทธิได้รู้ตามมาตรา 7 (เรื่องที่ต้องให้รู้) 1.2 สิทธิได้รู้ตามมาตรา 9 (เรื่องที่สนใจ) มาตรา 9 แห่ง พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารฯ ประชาชน :มีสิทธิตรวจดู หน่วยงานของรัฐ :มีหน้าที่ 1. จัดสถานที่ ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา 2. นำข้อมูลข่าวสารมาตั้งแสดงในสถานที่ตาม 1 3. จัดทำดัชนีสำหรับค้นหา 4. กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเข้าตรวจดู

  13. สิทธิตามกฎหมายของประชาชน (ต่อ) มาตรา 11 แห่ง พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารฯ ประชาชน :ใช้สิทธิได้ด้วยการยื่นคำขอ หน่วยงานของรัฐ :มีหน้าที่ 1. บริการและอำนวยความสะดวก 2. พัฒนาระบบจัดเก็บเอกสาร 3. จำแนกประเภทข้อมูลข่าวสารฯ 4. จัดหาข้อมูลให้ตามคำขอ 5. คัดสำเนาและรับรองสำเนา 1.3 สิทธิได้รู้ตามมาตรา 11 (เรื่องที่อยากรู้) 1.4 สิทธิได้รับสำเนาและขอ ให้รับรองสำเนาถูกต้อง มาตรา 9 และ 11 แห่ง พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารฯ ประชาชน :ใช้สิทธิได้ด้วยการยื่นคำขอ หน่วยงานของรัฐ :มีหน้าที่ 1. คัดสำเนาและรับรองสำเนา 2. กำหนดอัตราค่าธรรมเนียม

  14. สิทธิตามกฎหมายของประชาชน (ต่อ) 2. สิทธิคัดค้านด้านการเปิดเผย มาตรา 17 แห่ง พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารฯ ประชาชนทั่วไป :ยื่นคำขอดูข้อมูล ประชาชนผู้มีส่วนได้เสีย 1. คัดค้าน 2. ใช้สิทธิคัดค้านพร้อมแสดงเหตุผล 3. ใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฟังคำคัดค้าน หน่วยงานของรัฐ :มีหน้าที่ 1. แจ้งผู้มีส่วนได้เสียคัดค้าน 2. พิจารณาคำคัดค้าน 3. สิทธิร้องเรียน มาตรา 13แห่ง พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารฯ ประชาชนทั่วไป :ใช้สิทธิร้องเรียน หน่วยงานของรัฐ :มีพฤติกรรมฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม กฎหมาย กขร. :มีหน้าที่พิจารณาคำร้องเรียน(ภายใน 30 วัน)

  15. สิทธิตามกฎหมายของประชาชน (ต่อ) มาตรา 18แห่ง พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารฯ ประชาชนทั่วไป :ใช้สิทธิอุทธรณ์ หน่วยงานของรัฐ :มีหน้าที่ 1. มีคำสั่งปฏิเสธไม่เปิดเผย 2. ไม่รับฟังคำคัดค้าน 3. ไม่แก้ไขข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล 4. สิทธิอุทธรณ์ 5. สิทธิได้รู้ข้อมูลข่าวสาร ส่วนบุคคลของตน มาตรา 25แห่ง พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารฯ ประชาชนเจ้าหน้าที่ข้อมูล :ใช้สิทธิขอดู/ขอให้แก้ไข ประชาชนอื่น :จะขอดูได้ต้องได้รับหนังสือยินยอมจาก เจ้าของข้อมูล หน่วยงานของรัฐ :มีหน้าที่ 1. เปิดเผยแก่เจ้าของข้อมูล 2. แก้ไข/หมายเหตุ ตามคำร้องของเจ้าของข้อมูล 3. จัดระบบคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

  16. บทบัญญัติของกฎหมาย - หลักทั่วไป - หมวด 1 : ข้อมูลข่าวสารทั่วไป & การเปิดเผย - หมวด 2 : ข้อมูลข่าวสารที่ไม่ต้องเปิดเผย - หมวด 3 : ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล - หมวด 4 : เอกสารประวัติศาสตร์ - หมวด 5 : คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ - หมวด 6 : คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร - หมวด 7 : บทกำหนดโทษ - บทเฉพาะกาล

  17. “ข้อมูลข่าวสารของราชการ”“ข้อมูลข่าวสารของราชการ” ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครอง หรือควบคุมดูแลของหน่วยงานของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินงานของรัฐหรือข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเอกชน

  18. การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการ การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการ

  19. หน้าที่และวิธีดำเนินการของหน่วยงานของรัฐหน้าที่และวิธีดำเนินการของหน่วยงานของรัฐ ในการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการ ข้อมูลข่าวสารของราชการ จัดให้ เฉพาะราย ( มาตรา 11 ) เรื่องที่อยากรู้ จัดให้ประชาชน เข้าตรวจดู ( มาตรา 9 ) เรื่องที่สนใจ ลงพิมพ์ ในราชกิจจาฯ (มาตรา 7 ) เรื่องที่ต้องให้รู้

  20. สขร. XXXXXXX XXXXX XXXXXXX XXXXX XXXXXXX XXXXX กลุ่มวิชาการ. กลุ่มนโยบายฯ กลุ่ม ปชส. XXXXXXX XXXXX XXXXXXX XXXXX XXXXXXX XXXXX XXXXXXX XXXXX XXXXXXX XXXXX XXXXXXX XXXXX XXXXXXX XXXXX XXXXXXX XXXXX XXXXXXX XXXXX พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 เอกสารประวัติศาสตร์ มาตรา 7 (ลงพิมพ์ราชกิจจาฯ) มาตรา 9 (ตรวจดูได้เอง) มาตรา 26 ราชกิจจาฯ มาตรา 11 (ยื่นคำขอเฉพาะราย) มาตรา 15 ลับ มาตรา 24 ข้อมูลส่วนบุคคล MENU STOP

  21. การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการตามมาตรา 7 • ต้องลงพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา • 1. โครงสร้างและการจัดองค์กรในการดำเนินงาน 2. สรุปอำนาจหน้าที่ที่สำคัญและวิธีการดำเนินงาน * เพื่อให้ประชาชนได้รู้ถึงบทบาทที่แท้จริงของ แต่ละหน่วยงาน * รู้ถึงวิธีการหรือกระบวนการทำงาน

  22. การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารฯตามมาตรา 7 (ต่อ) 3. สถานที่ติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลข่าวสารหรือคำแนะนำในการ ติดต่อกับหน่วยงานของรัฐ * เป็นการเพิ่มความสะดวกแก่ประชาชน เพื่อทราบว่าจะไป ติดต่อได้ที่ใด จุดใด 4. หลักเกณฑ์ที่มีสภาพอย่างกฎมีผลเป็นการทั่วไปต่อเอกชน (กฎที่มีผลเฉพาะต่อเจ้าหน้าที่ในองค์กร เช่น กฎระเบียบ ขั้นตอน วิธีปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีผลต่อเอกชนเป็นการทั่วไปไม่ต้องลงพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา)

  23. การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการตามมาตรา 9 • ข้อมูลข่าวสารของราชการที่หน่วยงานจะต้องรวบรวมไว้ให้ ประชาชนเข้าตรวจดู 1. ผลการพิจารณาหรือคำวินิจฉัยที่มีผลโดยตรงต่อเอกชน ได้แก่ การอนุญาต อนุมัติ การวินิจฉัย การอุทธรณ์ ที่กระทำโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเช่น • * คำวินิจฉัยของคณะกรรมการอุทธรณ์ตาม พรบ. ควบคุมอาคาร กรณีเจ้าพนักงานท้องถิ่นมีคำสั่งไม่อนุญาตคำขอ • * ผลการพิจารณาอุทธรณ์คำสั่งไม่อนุญาตตาม พรบ. สุราฯ • * คำสั่งไม่อนุญาตให้ตั้งท่าเรือ คำสั่งพักใบอนุญาต หรือ ถอนใบอนุญาตของกรมการขนส่งทางน้ำ

  24. การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารฯตามมาตรา 9 (ต่อ) 2. นโยบายหรือการตีความ * นโยบายพลังงานแห่งชาติ * นโยบายตำรวจแห่งชาติ * นโยบายทุนรัฐวิสาหกิจ* นโยบายการผังเมืองแห่งชาติ * การหารือข้อกฎหมายกรณีสมาชิกสภาเทศบาล มีหุ้นส่วนใน หจก. ที่เป็นคู่สัญญากับเทศบาล * การหารือข้อกฎหมายเกี่ยวกับการดำเนินการตาม มติ ครม. และการจัดเก็บภาษีโรงเรือน และที่ดิน * การหารือปัญหาการบังคับใช้ พรบ. ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539

  25. การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการตามมาตรา 9 3. แผนงาน โครงการ และงบประมาณรายจ่ายประจำปี ของปีที่กำลัง ดำเนินงาน * แผนยุทธศาสตร์ของจังหวัดตามคำรับรองการ ปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ * แผนแม่บทของหน่วยงาน หรือ แผนพัฒนาด้าน ต่างๆ ของปีที่ ดำเนินการที่กำหนดไว้ในแผน 4. คู่มือหรือคำสั่งเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติงานของ จนท.ของรัฐ ซึ่งมีผลกระทบถึง สิทธิหน้าที่ของเอกชน * คู่มือการขออนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลง เคลื่อนย้าย หรือ รื้อถอนอาคาร ตาม พรบ. ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 * คู่มือการขอประกันตัวผู้ต้องหาในชั้นต่างๆ (ชั้นตำรวจ ชั้นศาล)

  26. การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการตามมาตรา 9 5. สิ่งพิมพ์ที่ได้มีการอ้างถึงตามมาตรา 7 วรรคสอง ถ้ามีการจัดพิมพ์เผยแพร่ไว้จำนวนพอสมควรแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องนำลงพิมพ์ในราชกิจจาฯ ทั้งหมด ลงพิมพ์แต่เพียงว่า ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวแล้ว โดยอ้างถึงสิ่งพิมพ์ที่มีการเผยแพร่แล้วไว้ในราชกิจจาฯด้วย กฎหมายจึงกำหนดให้ต้องนำสิ่งพิมพ์ที่ได้มีการอ้างอิงถึงในราชกิจจาฯ ต้องนำมารวมไว้เพื่อให้ประชาชนเข้าตรวจดูได้ด้วยเช่น * ประกาศ คณะกรรมการควบคุมการประกอบวิชาชีพสอบบัญชี ฉบับที่ 42 เรื่อง มาตรฐานการบัญชี

  27. การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการตามมาตรา 9 6. สัญญาสัมปทาน สัญญาที่มีลักษณะในการผูกขาด ตัดตอน หรือลักษณะร่วมทุนกับเอกชนในการจัดทำบริการสาธารณะ * สัญญาสัมปทานการเดินรถประจำทาง * สัญญาสัมปทานการทำเหมืองแร่ การทำไม้ * สัญญาสัมปทานให้เอกชนเก็บขยะมูลฝอยของ กทม. และ เมืองพัทยา * สัญญาโครงการทางด่วน * สัญญาให้ผลิตสุรา * สัญญา ITV* สัญญาโครงการรถไฟ เป็นต้น

  28. การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการตามมาตรา 9 7. มติคณะรัฐมนตรี หรือมติคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยกฎหมาย และแต่งตั้งโดยมติ ค.ร.ม. 7.1 มติ คณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี เช่น * มติ กขร. * มติคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ * มติคณะกรรมการมาตรฐานสินค้า * มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ * มติคณะกรรมการกำกับนโยบายราคากลางงานก่อสร้าง 7.2 มติคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยกฎหมาย เช่น * มติคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย * คณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เป็นต้น

  29. การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการตามมาตรา 9 8. ข้อมูลอื่นตามที่คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการกำหนด เนื่องจากข้อมูลมีจำนวนมาก และมีการพัฒนาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ข้อมูลฯที่ประชาขนควรได้รู้ในช่วงเวลาปัจจุบันอาจจะแตกต่างไปจากช่วงเวลาในอนาคต การที่กฎหมายให้อำนาจ กขร. เพื่อที่จะสามารถกำหนดเพิ่มเติมได้ว่าข้อมูลข่าวสารใดที่หน่วยงานของรัฐจะต้องจัดมารวมไว้ให้ประชาชนเข้าตรวจดูได้

  30. ข้อมูลข่าวสารอื่นซึ่งหน่วยงานของรัฐ ต้องจัดให้ประชาชนตรวจดู ตามมาตรา 9(8) ประกาศประกวดราคา ประกาศสอบราคา สรุปผลการพิจารณาจัดซื้อจัดจ้างประจำเดือน ( ตามแบบ สขร.1)

  31. มติคณะรัฐมนตรี 28 ธันวาคม 2547 ให้นำประกาศประกวดราคา ประกาศสอบราคา ผลการจัดซื้อจัดจ้างประจำเดือน เผยแพร่ผ่าน website ของหน่วยงาน

  32. วิธีการในการจัดการข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนเข้าตรวจดู 1. ต้องมีสถานที่เฉพาะ สำหรับประชาชนใช้ในการตรวจดูและศึกษาโดยสะดวก ตามสมควร 2. หน่วยงานของรัฐจะต้องจัดทำดัชนี ของข้อมูลข่าวสารที่ มีรายละเอียดเพียงพอให้ประชาชนเข้าใจวิธีการค้นหา โดยสะดวก - หมวดหมู่ - ชื่อเรื่อง - ผู้รับผิดชอบ

  33. วิธีการในการจัดการข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนวิธีการในการจัดการข้อมูลข่าวสารให้ประชาชน เข้าตรวจดู (ต่อ) 3. กำหนดระเบียบปฏิบัติเพื่อรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยหรือความปลอดภัยของหน่วยงานก็ได้ 4. มีเจ้าหน้าที่ให้บริการ / อำนวยความสะดวก

  34. วิธีการในการจัดการข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนวิธีการในการจัดการข้อมูลข่าวสารให้ประชาชน เข้าตรวจดู (ต่อ) 5. วางหลักเกณฑ์การเรียกค่าธรรมเนียมในการขอสำเนา หรือ สำเนาที่มีคำรับรองถูกต้องก็ได้ โดยต้องขอความเห็นชอบจาก กขร. ก่อน ทั้งนี้ควรคำนึงถึงผู้มีรายได้น้อย ประกอบด้วย * ประกาศฯ 7 พ.ค. 2542 : ค่าธรรมเนียมการทำสำเนาโดย เครื่องถ่ายเอกสารขนาดกระดาษ A4 หน้าละไม่เกิน 1 บาท ฯลฯ

  35. ประกาศฯ เรื่องการเรียกค่าธรรมเนียมขอสำเนา ขนาดกระดาษ เอ ๔ ไม่เกิน ๑ บาท ขนาดกระดาษ เอฟ ๑๔ ไม่เกิน ๑.๕๐ บาท ขนาดกระดาษ บี ๔ ไม่เกิน ๒ บาท ขนาดกระดาษ เอ ๓ ไม่เกิน ๓ บาท ขนาดกระดาษพิมพ์เขียว เอ ๒ ไม่เกิน ๘ บาท ขนาดกระดาษพิมพ์เขียว เอ ๑ ไม่เกิน ๑๕ บาท ขนาดกระดาษพิมพ์เขียว เอ ๐ ไม่เกิน ๓๐ บาท

  36. การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารตามมาตรา 9 ถ้ามีส่วนต้องห้ามมิให้เปิดเผยตามมาตรา 14 หรือ 15 อยู่ด้วย ให้ลบ หรือตัดทอน หรือทำโดยประการอื่นใดที่ไม่เป็นการเปิดเผยข้อมูลนั้น บุคคลไม่ว่ามีส่วนได้เสียเกี่ยวข้องหรือไม่ ย่อมมีสิทธิเข้าตรวจดู ขอสำเนาหรือสำเนาที่มีคำรับรองถูกต้องได้ โดยหน่วยงานอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการนั้นได้

  37. การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการตามมาตรา 11 เป็นการจัดข้อมูลข่าวสารให้ตามที่มีผู้มาขอยื่นคำขอกับ หน่วยงานของรัฐ ผู้ขอต้องระบุคำขอข้อมูลให้เข้าใจได้ตามควร 1. หน่วยงานจัดให้ภายในเวลาอันสมควรเว้นแต่ขอจำนวน มาก หรือ บ่อยครั้ง 2. ถ้าไม่มี ให้แนะนำไปยื่นที่อื่น 3. ข้อมูลที่หน่วยงานอื่นจัดทำและห้ามเปิดเผย ให้ส่งคำ ขอให้หน่วยงานอื่นพิจารณา

  38. พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. ๒๕๔๖ มาตรา ๓๘ กำหนดให้เจ้าหน้าที่ต้องแจ้งผลการดำเนินการให้ประชาชนผู้สอบถามทราบภายใน ๑๕ วัน”

  39. มติ ครม. เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๔๗ กรณีประชาชนขอข้อมูลข่าวสาร และหน่วยงานรัฐมีพร้อมอยู่แล้วให้ดำเนินการโดยเร็ว หรือภายในวันที่ขอ ถ้าขอมากไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ๑๕ วัน ให้แจ้งผู้ขอทราบภายใน ๑๕ วัน และแจ้งกำหนดวันแล้วเสร็จด้วย

  40. ลักษณะข้อมูลที่จัดให้ลักษณะข้อมูลที่จัดให้ (1) เป็นข้อมูลข่าวสารที่มีอยู่แล้ว (2) ไม่ต้องจัดทำขึ้นใหม่เว้นแต่การแปรสภาพเป็นเอกสาร แต่หากเห็นว่ามิใช่เป็นการแสวงหาประโยชน์ทางการค้า และเพื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพ หรือเพื่อประโยชน์ แก่สาธารณะอาจจัดหาให้ก็ได้ (3) ไม่เป็นการห้ามหน่วยงานที่จะจัดให้ หากเป็นการสอดคล้องด้วยอำนาจหน้าที่ตามปกติของหน่วยงาน

  41. ข้อมูลข่าวสารที่ไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่อาจก่อให้เกิดความ เสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ (มาตรา 14)

  42. ข้อมูลข่าวสารที่อาจไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่อาจไม่ต้องเปิดเผย ใช้ดุลพินิจโดยคำนึงถึงเรื่องต่อไปนี้ ประกอบกัน1) การปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐ2) ประโยชน์สาธารณะ3) ประโยชน์ของเอกชนที่เกี่ยวข้อง

  43. ข้อมูลข่าวสารที่อาจมีคำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่อาจมีคำสั่งมิให้เปิดเผย ข้อมูลข่าวสารตามมาตรา ๑๕ ที่มีลักษณะดังนี้ กระทบความมั่นคงของประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจฯ ทำให้การบังคับใช้กฎหมาย เสื่อมประสิทธิภาพ เป็นความเห็นหรือคำแนะนำภายในหน่วยงาน เป็นอันตรายต่อชีวิต หรือความปลอดภัยบุคคล รายงานทางการแพทย์ หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่การ เปิดเผยอาจเป็นการรุกล้ำสิทธิส่วนบุคคลเกินสมควร กฎหมายหรือผู้ให้ข้อมูลกำหนดมิให้เปิดเผย

  44. 7 ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล

  45. ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล:องค์ประกอบข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล:องค์ประกอบ ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่ง เฉพาะตัวของบุคคล ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล มีสิ่งบอกลักษณะ ที่ทำให้รู้ตัวผู้นั้นได้

  46. ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล สิ่งเฉพาะตัวบุคคล สิ่งที่ทำให้รู้ตัวผู้นั้น เช่น เช่น ฐานะการเงิน ชื่อ-นามสกุล การศึกษา ลายพิมพ์นิ้วมือ ประวัติสุขภาพ แผ่นบันทึกลักษณะเสียง ประวัติอาชญากรรม รูปภาพ ประวัติการทำงาน ฯลฯ

  47. การปฏิบัติเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล (มาตรา ๒๓) จัดให้มีเท่าที่เกี่ยวข้อง / จำเป็น และยกเลิก เมื่อหมดความจำเป็น เก็บข้อมูลจากเจ้าของข้อมูล จัดพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา

  48. ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง : เจ้าของมีสิทธิ ๑๐๐% ข้อมูลของผู้อื่น : ห้ามเปิดเผย มีข้อยกเว้นให้เปิดเผยได้ตาม ม.๒๔ เจ้าของข้อมูลยินยอมเป็นหนังสือ

  49. ข้อยกเว้น ให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (มาตรา 24) ต่อ จนท.ในหน่วยงานนำไปใช้ตามอำนาจหน้าที่  การใช้ข้อมูลตามปกติ  ต่อ หน่วยงานที่ทำงานด้านแผน/การสถิติ  การใช้เพื่อประโยชน์ในการศึกษาวิจัย ต่อ จนท. เพื่อป้องกันการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม กม.  ต่อ หอจดหมายเหตุฯ เพื่อการตรวจดูคุณค่า ม. 26 วรรคหนึ่ง  กรณีจำเป็นเพื่อป้องกัน/ระงับอันตรายต่อชีวิต/สุขภาพ  ต่อ ศาล และ จนท. หน่วยงาน /บุคคลที่มีอำนาจตาม กม.  กรณีอื่นตามที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกา

More Related