1 / 20

ไม้ดอกไม้ประดับงามตา

ไม้ดอกไม้ประดับงามตา. นายธวัชชัย สาบัว ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย โรงเรียนบ้านท่าเกวียน. ชนิดไม้ดอกไม้ประดับ งามตา. ดาวเรือง (Marigold) .

alamea
Download Presentation

ไม้ดอกไม้ประดับงามตา

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. ไม้ดอกไม้ประดับงามตา นายธวัชชัย สาบัว ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย โรงเรียนบ้านท่าเกวียน

  2. ชนิดไม้ดอกไม้ประดับ งามตา

  3. ดาวเรือง (Marigold) ดาวเรืองที่นิยมนำมาปลูกประดับมี 2พันธุ์ คือ- ดาวเรืองอเมริกัน เป็นดาวเรืองดอกใหญ่ ความสูงของต้นตั้งแต่ 15-75 เซนติเมตร มี 3 สี คือ สีเหลือง สีทอง และสีส้ม เหมาะสำหรับปลูกประดับแปลง ทั้งในลักษณะที่ปลูกเลี้ยงในแปลงโดยตรง หรือปลูกเลี้ยงในกระถาง - ดาวเรืองฝรั่งเศสเป็นดาวเรืองดอกเล็ก ต้นเตี้ย ปลูกได้เฉพาะในฤดูหนาวเท่านั้น เพราะเป็นพันธุ์ที่ไวแสง ส่วนในฤดูอื่นจะออกดอกเพียง 4-5 ดอก ดอกมี 3สี คือ สีเหลือง สีส้ม และสีแดง มีทั้งดอกชั้นเดียวและดอกซ้อนความสูงตั้งแต่ 15-40เซนติเมตร

  4. ดาวกระจาย (Cosmos) นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ มี 2พันธุ์คือ- ดาวกระจายสีเหลืองดาวกระจายประเภทนี้พบเห็นอยู่ทั่วไปในธรรมชาติทุกจังหวัดของประเทศไทย เป็นไม้ดอกล้มลุก ปลูกง่ายเลี้ยงง่าย ไม่ต้องดูแลรักษามากนัก แต่มีเฉพาะดอกสีเหลืองและสีส้มเท่านั้น มี- ดาวกระจายสีอื่นดาวกระจายประเภทนี้มีสีขาว สีชมพู สีม่วง สีบานเย็น และสีแดง ไม่มีสีเหลือง ใบมีลักษณะคล้ายผักชีลาว ดอกมีขนาดใหญ่ชั้นเดียว

  5. หงอนไก่ (Celosia cristata) มีพันธุ์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมากมาย ทั้งต้นสูงและต้นเตี้ย โดยเฉพาะพันธุ์ที่มีสีสดใสกว่าพันธุ์เดิม คือสีเหลือง สีชมพู และสีแดงสด หากปลูกรวมกันในแปลงเป็นกลุ่มใหญ่จะสวยงามมาก

  6. ผีเสื้อ (Dianthus หรือ Pink) เป็นไม้ดอกที่ต้องการอากาศค่อนข้างเย็นสักเล็กน้อย แต่ถ้าปลูกในฤดูหนาวก็ไม่มีปัญหาส่วนใหญ่มีกลีบดอกชั้นเดียว พุ่มต้นสูงเพียง 15-30 เซนติเมตร

  7. พิทูเนีย(Petunia) เมล็ดมีขนาดค่อนข้างเล็กมาก แต่ไม่มีการขยายพันธุ์ด้วยวิธีอื่นที่สะดวกและได้จำนวนต้นมากเท่าวิธีเพาะเมล็ด จึงนิยมขยายพันธุ์ด้วยวิธีนี้ มีแปลงจะสวยงามมาก มีหลายสี หลายพันธุ์ และหลายประเภท

  8. แพงพวย (Vinca) เป็นไม้ดอกที่ทนแล้งมาก และไม่ชอบที่ชื้นแฉะ หากรดน้ำมากเกินไปจะทำให้ต้นเน่าตาย พันธุ์ดั้งเดิมมีต้นสูงใหญ่ ออกดอกประปราย ดูไม่เด่นสะดุดตา พันธุ์ใหม่ในปัจจุบันต้นเตี้ยลงเหลือเพียง 15เซนติเมตร และถ้าปลูกไปนานๆ จะค่อยๆ สูงขึ้นอย่างช้าๆ อยู่ได้นานหลายปีที่สำคัญคือ มีดอกดก และขนาดดอกใหญ่ขึ้น จึงเหมาะที่จะปลูกประดับในที่ซึ่งดูแลไม่ทั่วถึง

  9. เครื่องมือเตรียมพื้นที่ปลูกเครื่องมือเตรียมพื้นที่ปลูก

  10. เครื่องมือตัดแต่งกิ่งและขยายพันธ์เครื่องมือตัดแต่งกิ่งและขยายพันธ์

  11. การปลูกดอกดาวเรือง

  12. 1. ชนิดของดาวเรือง ชนิดของดาวเรือง • ดาวเรืองที่ปลูกกันอยู่โดยทั่วไปแบ่งเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ 1. ดาวเรืองอเมริกัน ดอกซ้อนกันแน่น ดอกมีขนาดใหญ่ 2. ดาวเรืองฝรั่งเศส เป็นดาวเรืองต้นเล็ก ดอกมีขนาดเล็ก 3. ดาวเรืองพันธุ์ลูกผสม มีลักษณะความแข็งแรง ดอกใหญ่ และมีกลีบซ้อนมาก

  13. การขยายพันธุ์ดาวเรืองการขยายพันธุ์ดาวเรือง ทำได้โดยการใช้เมล็ดและการปักชำ แต่วิธีที่นิยมทำคือ การใช้เมล็ด เพราะได้จำนวนมากกว่า

  14. การปลูกดาวเรือง 1. ไถเตรียมดิน หว่านปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไป 2. ขุดหลุมกว้าง 15 เซนติเมตร แปลงละ 3 แถว ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 3. นำต้นกล้าที่มีอายุ 7-10 วัน นำมาปลูกในแต่ละหลุมที่เตรียมไว้ รดน้ำให้ชุ่ม 4. เมื่อดาวเรืองอายุ 15 และ 25 วัน ควรใส่ปุ๋ย 15-15-15 5.หลังจากปลูก 40-45 วัน ต้องรีบปลิดดอกข้างออกให้หมดภายใน 2-3 วัน 6. หลังจากนั้นประมาณ 20 วัน ก็ตัดดอกไปจำหน่าย

  15. โรคและแมลงที่สำคัญต่อดาวเรืองโรคและแมลงที่สำคัญต่อดาวเรือง 1. โรคเหี่ยว2. โรคราแป้ง3. โรคดอกไหม้ 4. เพลี้ยไฟ5. หนอนกระทู้หอม

  16. การปลูกบอนสี

  17. 1. การขยายพันธุ์ 1.1 การแยกหน่อ • เป็นวิธีการขยายพันธุ์บอนที่ไม่ยุ่งยากและบอนต้นใหม่ที่ได้จะเหมือนต้นเดิมทุก ควรทำในฤดูฝนเพราะเป็นช่วงที่พ้นระยะพัก บอนต้นใหม่ที่แยกจะเติบโตและแข็งแรงได้เร็ว • 1.2 การเพาะเมล็ด คือ การนำเมล็ดที่ได้จากการผสมเกสรมาเพาะให้เกิดต้นใหม่

  18. 2. การปลูกเลี้ยงและดูแลรักษา • ดิน ควรเป็นดินที่มีความร่วนซุย ระบายน้ำและอากาศได้ • น้ำ • ควรให้น้ำสม่ำเสมอ การรดน้ำควรรดวันละ 2 ครั้งตอนเช้าและตอนเย็น ไม่ควรใช้สายยางฉีดน้ำที่โคนต้น

  19. แสงแดด แสงมีผลต่อสีสันและลวดลายของใบบอนมาก อาจใช้ที่พรางแสง 50-70% ช่วยก็ได้ • ความชื้นในอากาศ บอนเป็นพืชที่ต้องการความชื้นในอากาศเพื่อป้องกันการพักตัวของบอนในช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อนจึงมีการปลูกเลี้ยงบอนในตู้หรือในกระโจม

  20. การให้ปุ๋ย ปุ๋ยอินทรีย์ควรใช้ปุ๋ยคอกมูลหมูและมูลไก่ ส่วนมูลวัวเมื่อใช้ไปนานๆ จะทำให้ดินเละทำให้หัวเน่าได้ง่าย ปุ๋ยเคมีใช้สูตรเสมอ เช่น 16-16-16 ในอัตราต่ำๆ จะช่วยให้ใบดกและสีสันสวย ถ้าใส่มากจะทำให้ชั้นใบห่างเกินไป ไม่ควรใช้ปุ๋ยละลายน้ำที่ให้ทางใบเพราะอาจทำให้ใบเป็นรอยไหม้ได้ เนื่องจากผิวใบของบอนสีบอบบาง

More Related