International Air Fares

1. International Air Fares

2. Flight Itinerary Terms

3. Ticket point of travel are those cities on a flight itinerary where the passenger either enplanes (boards an aircraft) or deplanes (gets off an aircraft) PAR NYC CAS CAI DEL

4. Flight Itinerary Terms • Origin (เมืองต้นทาง) • Destination(เมืองปลายทาง) • Outward Destination(เมืองปลายทางขาออก) • Outbound Sector(จุดผ่านเมืองขาออก) • Inbound (return) sector(จุดผ่านเมืองขาเข้า) • Intermediate city(เมืองระหว่างทาง) • Connecting city (เมืองต่อเครื่อง) • Stopover city(เมืองหยุดพัก)

5. Origin: The city where the journey begin PAR NYC CAS CAI DEL

6. Destination: The final or ultimate stopping place PAR NYC CAS CAI DEL

7. Outward Destination: The city located the furthest in distance from the origin PAR NYC CAS CAI DEL

8. Outbound sector: the portion of Itinerary from the origin to and including the outward destination. PAR NYC CAS CAI DEL

9. Inbound sector: the portion of Itinerary from the outward destination to the final destination. PAR NYC CAS CAI DEL

10. Intermediate city: Any ticket point of travel between the origin and outward destination PAR NYC CAS CAI DEL

11. Connecting city: An intermediate city on the itinerary where the passenger is required to transfer flight, with no more than 24 hours between flight PAR NYC CAS CAI DEL

12. Example: Connecting City • AF212 12JUN JFK CDG 4:45PM 4:35AM(June13) • AF552 13JUN CDG DEL 8:30PM 11:45AM(June14)

13. Stopover city: A city on the itinerary where the passenger breaks his or her journey and is scheduled to depart after more than 24 hours since the time of arrival. PAR NYC CAS CAI DEL

14. Example:Stopover city • TW816 27JUN DEL CAI 4:30AM 4:15PM • AF552 29JUN CAI CMN 9:15PM 1:45PM

15. Types of Journeys

16. There are 4 Types of Journeys • One-Way Trip (การเดินทางขาเดียว) • Round Trip(การเดินทางไปกลับ) • Circle Trip (การเดินทางแบบวงรอบ) • Open-Jaw Trip (การเดินทางแบบเปิด)

17. One-Way Trip (การเดินทางขาเดียว) • A one-way journey is a continuous trip from the origin to a different final destination, without a return to the city of origin. • การเดินทางที่ต่อเนื่องจากจุดต้นทางไปยังเมืองปลายทางสุดท้ายโดยไม่มีการกลับมายังจุดต้นทาง • NYC…………..(AF)……….PAR • MIA.....(UA)……RIO……(RG)….BUE

18. Round Trip (การเดินทางไปกลับ) • A round trip is a journey via a continuously charged air route that returns to the same city as the point of origin, and the base fare amount and the general fare type are the same in both directions. • หมายถึงการเดินทางต่อเนื่องที่กลับมายังเมืองต้นทางเดิมณ จุดเริ่มต้นโดยมีฐานราคาค่าโดยสารและประเภทราคาค่าโดยสารแบบเดียวกันทั้งขาไปและขากลับ

19. Circle Trip (การเดินทางแบบวงรอบ) • A circle trip is a journey via a continuously charged air route that returns to the same city as the point of origin but does not qualify as a round trip. • หมายถึงการเดินทางต่อเนื่องที่กลับมายังเมืองต้นทางเดิม ณ จุดเริ่มต้นโดยมีฐานราคาค่าโดยสารและ/หรือประเภทราคาค่าโดยสารที่แตกต่างกันระหว่างขาไปและขากลับ

20. Open-Jaw Trip (การเดินทางแบบเปิด) • An open-jaw trip is an incomplete round or circle trip, which is not completely closed because of a surface (non-air) segment within the itinerary. • หมายถึงการเดินทางที่ไม่ครบรอบของการเดินทางแบบไปกลับหรือการเดินทางแบบรอบวง ซึ่งอาจไม่ครบวงเพราะมีเส้นทางการเดินทางด้วยวิธีอื่นที่ไม่ใช่การเดินทางทางอากาศแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ • Turnaround open-jaw-การเดินทางเปิดที่ปลายทาง • Origin open-jaw- การเดินทางเปิดที่ต้นทาง

21. Categories of International Air Fares ประเภทของราคาค่าโดยสารระหว่างประเทศ

22. RestrictionsExplanationข้อจำกัดหรือเงื่อนไขของราคาค่าโดยสารแบ่งออกเป็น 5 ประเภท: • Stopovers • Validity • Minimum Stay • Maximum Stay • Advance Purchase • Change Penalty • Cancellation Penalty

23. Stopovers (การหยุดแวะพัก) • ข้อจำกัดหรือเงื่อนไขในเรื่องจำนวนการหยุดแวะพักที่ผู้โดยสารสามารถหยุดแวะพักได้ตั้งแต่หนึ่งเมืองหรือมากกว่านั้นระหว่างเมืองเริ่มต้น(Origin)ไปยังเมืองปลายทางที่ไกลที่สุด(Outward Destination) • อาจอนุญาตให้หยุดแวะพักได้ 1-2 เมือง โดยการเพิ่มราคาค่าโดยสารหรืออาจไม่เพิ่มก็ได้

24. Validity- ระยะเวลาการใช้ • ข้อจำกัดในเรื่องช่วงเวลาที่อนุญาตให้ผู้โดยสารพักอยู่ได้ก่อนที่จะกลับ โดยผู้โดยสารจะถูกจำกัดในเรื่องระยะเวลาขั้นต่ำที่จะต้องหยุดพัก(minimum stay) และระยะเวลามากที่ที่สุดที่อนุญาตให้หยุดแวะพัก (maximum stay) • Minimum stay – ผู้โดยสารไม่สามารถเดินทางกลับได้ก่อนวันที่ระบุไว้ เช่นผู้โดยสารไม่สามารเดินกลับได้หากมีระยะเวลาน้อยกว่า 7 วันนับจากวันเริ่มต้นการเดินทาง • Maximum Stay- ผู้โดยสารจะต้องเดินทางกลับภายในจำนวนวันที่กำหนดหรือ ภายในช่วงเวลาที่กำหนด เช่นภายใน 2 เดือนนับจากวันออกเดินทาง

25. Change Penalty-การเสียค่าปรับเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง • เป็นข้อจำกัดในเรื่องของประเภทและจำนวนการเปลี่ยนแปลงที่ผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลหลังการสำรองที่นั่งแล้ว เช่นอนุญาตให้เปลี่ยนแปลงวันกลับได้แต่ต้องเสียค่าปรับ 150 USD เป็นต้น

26. Advance Purchase- การชำระเงินหลังการสำรองที่นั่ง • เป็นคุณสมบัติที่แสดงว่าออกตั๋วเมื่อใดหลังการสำรองที่นั่งหากต้องการตั๋วโดยสารราคานี้ • หมายถึงช่วงเวลาที่กำหนดให้ชำระเงินล่วงหน้าก่อนวันเดินทาง • หากเป็นตั๋วที่มีราคาเป็นประเภท Instant-purchase Fares ก็ต้องชำระเงินทันทีที่มีการสำรองที่นั่ง • การกำหนดให้ออกตั๋ว (ชำระเงิน) ล่วงหน้าก่อนการเดินทาง 2 วัน เป็นต้น

27. Cancellation Penalty-การเสียค่าปรับเมื่อมีการยกเลิก • การกำหนดเงื่อนไขในการเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มหรือการเสียค่าปรับหากมีการยกเลิกตั๋วหรือยกเลิกการจองที่ได้กระทำไปแล้ว โดยอาจคิดเป็นเปอเซ็นต์ของราคาค่าโดยสารหรืออาจจะระบุเป็นจำนวนที่แน่นอนก็ได้ เช่น หากยกเลิกการเดินทางจะต้องเสียค่าปรับ 150 USDสำหรับตั๋วที่ระบุว่าห้ามคืน(nonrefundable type fares) หากมีการยกเลิกจะถูกปรับ 100%

28. Five fare Categories • Normal - แบบปกติ • Restricted Normal - แบบปกติมีข้อจำกัด • Standard Excursion- แบบมาตรฐาน ไป-กลับ • Advance-Purchase Excursion (APEX)-แบบไป-กลับกำหนดซื้อล่วงหน้า • Nonrefundable-แบบคืนไม่ได้

29. Normal Fare –แบบปกติ • หมายถึงราคาค่าโดยสารของตั๋วที่ไม่มีข้อจำกัด ผู้โดยสารสามารถหยุดแวะพักระหว่างทางระหว่างจุดเริ่มต้นไปยังจุดปลายทางที่ไกลที่สุดได้โดยไม่ต้องเสียค่าปรับ หรือค่าเปลี่ยนแปลงของการขอหยุดในแต่ละเมือง ปกติจะมีชื่อเรียกว่า “ตั๋วปี” เพราะตั๋วจะมีอายุ 1 ปีนับจากวันออกตั๋ว

30. Restricted Normal Fare-แบบปกติมีข้อจำกัด • มีคุณสมบัติเหมือนตั๋วปกติ ยกเว้นในเรื่องข้อจำกัดของการหยุดพักระหว่างการเดินทาง โดยอาจอนุญาตให้หยุดได้ 1-2 เมืองโดยอาจเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มหรือไม่เสียค่าใช้จ่ายก็ได้ • คุณสมบัติอื่นๆเหมือนตั๋วปกติทุกประการโดยมีอายุ 1 ปี และไม่มีข้อจำกัดอื่นๆ

31. Standard ExcursionFare(EE) แบบมาตรฐานไป-กลับ • จะมีข้อจำกัดใน 3 เรื่องคือ • ต้องเป็นตั๋วไปกลับเท่านั้น(round trip) • หากต้องการหยุดแวะพักระหว่างทางต้องคิดราคาเพิ่ม • มีการจำกัดช่วงเวลาของการเดินทาง (minimum stayand maximum stay)

32. Advance-Purchase Excursion Fare (APEX)-ราคาตั๋วไปกลับที่กำหนดเวลาซื้อล่วงหน้า • ต้องเป็นตั๋วไปกลับเท่านั้น(round trip) • หากต้องการหยุดแวะพักระหว่างทางต้องเสียคิดราคาเพิ่ม • มีการจำกัดช่วงเวลาของการเดินทาง (minimum stayand maximum stay) • มีการกำหนดระยะเวลาในการจองล่วงหน้าก่อนวันเดินทาง • ต้องเสียค่าปรับหากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆหลังการออกตั๋ว • ต้องเสียค่าปรับหากมีการขอยกเลิกตั๋ว

33. Nonrefundable Fare – แบบคืนไม่ได้ • ต้องเป็นตั๋วไป-กลับเท่านั้น(round trip) • ห้ามหยุดแวะพักระหว่างเมือง • กำหนดช่วงเวลาของการเดินทาง (minimum stayand maximum stay) • กำหนดเวลาการชำระเงินและการออกตั๋วโดยสารหลังการสำรองที่นั่ง • ต้องเสียค่าปรับหากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆหลังการออกตั๋วโดยสาร • ไม่สามารถยกเลิกตั๋วได้

35. Other Types of Discounted Fares - ตั๋วลดราคาประเภทอื่นๆ Negotiated Fares Consolidator Fare Airline discount coupons Passenger-type discounts

36. Negotiated fares • Are special discounted prices that have been established between a company and an airline or between travel agency and an airline. • On designated route or those route that are travel frequently by company’s employees

37. Consolidator Fare • Consolidator is an outlet for airline tickets. • Consolidator purchase airline seats in volume at a discount and then resells those seats at a small markup but still below normal “retail” price.

38. Airline coupons • There are hundreds of different coupons distributed by airlines with different rules and restrictions of travel.

39. Passenger –Type discounts • Certain type of Passenger may qualify for discounted travel base on who they are. • Ex: Senior citizens, government officials, children under 2 years of age etc.

40. International Fare-Type Codes รหัสราคาค่าโดยสารระหว่างประเทศ

41. ความหมาย • ราคาค่าโดยสารแต่ละประเภทจะมีรหัสเพื่ออธิบายประเภทของราคาค่าโดยสารของตั๋วนั้นๆเรียกว่า fare-type-code หรือfare-basis-codes • อาจมีรหัสตัวอักษรเดียวหรือหลายตัวอักษรก็ได้ • มีองค์ประกอบในการเขียนที่ต้องเรียงตามลำดับขั้นของข้อจำกัด • รหัสราคาค่าโดยสารจะปรากฏในตั๋วโดยสารในช่อง Fare Basis

42. Code Elements- องค์ประกอบของรหัสราคาค่าโดยสาร จะมีทั้งหมด 7 ขั้นดังนี้ • Primary Class of service codeรหัสบอกชั้นที่นั่งผู้โดยสารหรือเรียกว่า PRIME CODE • Part of year (seasonality) code หรือSEASONCODE รหัสบอกฤดูกาล • Part of week code รหัสบอกช่วงเวลาการเดินทางของสัปดาห์ • Part of day codeรหัสบอกช่วงเวลาการเดินทางของวัน • Fare- and passenger –type codeรหัสบอกประเภทราคาหรือประเภทผู้โดยสาร • Validity- รหัสบอกข้อจำกัดในเรื่องอายุของตั๋วหรือระยะเวลาที่ต้องใช้ตั๋ว • Fare level identifier- รหัสบอกระดับราคา

43. 1.PRIME CODE- รหัสชั้นที่นั่งผู้โดยสาร • ถือเป็นรหัสบังคับ(mandatory)ที่ต้องมี • หมายถึงรหัสตัวอักษรที่ระบุชั้นที่นั่งของสายการบิน(class of service) หรือชั้นในการจอง(booking code)อาจแสดงชั้นที่นั่งออกมาโดยตรง หรือแสดงให้เห็นว่าเป็นราคาพิเศษ • รหัสของชั้น First Class Category อาจระบุเป็น R, P, F, A • รหัสของชั้น Business Class Category อาจระบุเป็น J, C, D, I, Z • รหัสของชั้น Economy Class Category อาจระบุเป็น W, S, Y, B, H, K, L, M, N, Q, T, V,X

44. 2. Seasonal Code- รหัสฤดูกาล • ถือเป็นรหัสที่จะใส่เมื่อราคานั้นเป็นราคาเฉพาะของฤดูกาลนั้นเท่านั้น • รหัสจะระบุช่วงเวลาของฤดูการเดินทางในรอบปีดังนี้ • H= High หรือ Peak season- ช่วงเวลาที่คนเดินทางมาก • O= Mid/Shoulder Season- ช่วงต่อของฤดูกาล • K= Mid/Shoulder Season- ช่วงต่อของฤดูกาล • L= Low/Off-Peak season- ช่วงเวลาที่คนเดินทางน้อย

45. 3. Part of Week Code-รหัสสัปดาห์ • ถือเป็นรหัสที่จะใส่เมื่อราคานั้นมีความแตกต่างกันตามช่วงเวลาการเดินทางของสัปดาห์ • รหัสจะระบุช่วงเวลาของการเดินทางคือ • W= Weekend/ High • H= Weekend/ High • X= Weekday/ Low • L= Weekday/Low

46. 4.Part of Day Code- รหัสช่วงวัน • รหัสจะถูกใส่เมื่อตั๋วนั้นมีการลดราคาลงในช่วงเวลาที่ผู้โดยสารไม่นิยมเดินทาง หรือไม่ได้มีความหนาแน่น เช่นในช่วงกลางวัน หรือช่วงบ่าย หรือช่วงดึก แล้วแต่ละสายการบินจะกำหนด • รหัสจะระบุเป็น • N Night/ Off-Peak

47. 5. Fareand Passenger-Type Codeรหัสประเภทผู้โดยสาร • AB = Advance-Purchase Fare(Lowest-Super APEX) • AN= Nonrefundable APEX • AP = Advance Purchase Fare • CD = Senior Citizen Discount • EE = Standard Excursion • IN = Infant Fare • CH = Child Fare • IP = Instance-Purchase Fare • NR= Nonrefundable Fare • PX= Instant Purchase Excursion (PEX Fare) • AD = Agent • DG = Government Official • ID = Air Industry Employee • SC = Ship Crew • SD = Student • ใช้เพื่อระบุประเภทของตั๋วที่บ่งบอกการลดราคาค่าโดยสาร หรือประเภทของผู้โดยสารที่ใช้ราคาค่าโดยสารที่ลดราคานี้ • รหัสจะระบุประเภทของผู้โดยสารดังนี้

48. 6. Validity Indicator- รหัสบอกอายุของตั๋ว • รหัสจะถูกใส่ในกรณีที่มีการกำหนดอายุของตั๋ว หรือช่วงเวลาการอนุญาตให้ใช้ตั๋ว นับจากวันเริ่มการเดินทาง โดยจะระบุเป็นช่วงเวลาที่มากที่สุดที่จะอนุญาตให้หยุดพักได้ (maximum stay)ก่อนการใช้ขากลับ • รหัสจะถูกใส่เป็นตัวเลขอย่างเดียวถ้าระบุเป็นจำนวนวัน • รหัสจะถูกใส่เป็นตัวเลขและตามด้วยตัวอักษรแทนเดือน • 45= Number of days • 60= Number of days • 1M= Number of months (1 เดือน) • 6M= Number of months(6 เดือน)

49. 7. Fare Level Identifierรหัสบอกระดับราคา • ใช้เพื่อแสดงความแตกต่างของราคาในกรณีที่มีระดับราคามากกว่าหนึ่งราคาในตั๋วประเภทเดียวกัน • รหัสจะถูกใส่ดังนี้ • 1= Highest level • 2= 2nd Highest level • 3= 3rd Highest level

50. Example : BLAP3M B = Economy Discounted L= Low or Off peak season AP= Advance purchase fare 3M= the maximum stay is 3 months